เอเอฟพี /เอเจนซีส์ / MGR online - ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกีในวันเสาร์ (29 ต.ค.) เผยว่ารัฐบาลภายใต้การนำของเขาจะร้องขอให้รัฐสภาพิจารณาการนำโทษประหารชีวิตกลับมาบังคับใช้ใหม่ เพื่อใช้ในการลงโทษแก่บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามทำรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเดือนกรกฎาคม
“รัฐบาลของเราจะเสนอเรื่องนี้ต่อรัฐสภาและข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่ารัฐสภาจะให้ความเห็นชอบ และเมื่อถึงขั้นตอนที่เรื่องนี้ย้อนกลับมาถึงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะไม่รั้งรอที่จะใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อทำให้มันมีผลบังคับใช้ในที่สุด” แอร์โดอัน กล่าวที่กรุงอังการา เมืองหลวงของประเทศ พร้อมย้ำกับบรรดาผู้สนับสนุนที่ร้องตะโกนถ้อยคำ “เราต้องการให้มีโทษประหารชีวิต” ว่าความต้องการนี้จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
ก่อนหน้านี้ การลงโทษประหารชีวิตในตุรกีได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2004 ในฐานะเงื่อนไขส่วนหนึ่งที่ตุรกีต้องยอมปฏิบัติตามหากตุรกีประสงค์จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (อียู)
อย่างไรก็ดี ความพยายามก่อรัฐประหารโค่นอำนาจแอร์โดอันที่จบลงด้วยความล้มเหลวในวันที่ 15 กรกฎาคม กลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้นำตุรกีประกาศจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ “แก้แค้น” แก่บรรดาผู้ก่อการ ถือเป็นท่าทีที่สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาผู้นำในอียู และการเดินหน้ากวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้ร่วมก่อการอย่างไม่ลดละของผู้นำตุรกีนับจากนั้นได้กลายเป็น “ปัจจัยเชิงลบ” ที่ผลักให้ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและอียูเลวร้ายย่ำแย่ลงตลอดหลายเดือนมานี้
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมไปแล้วมากกว่า 35,000 รายหลังการเดินหน้ากวาดล้างของผู้นำตุรกีต่อกลุ่มผู้ก่อการกบฏ ที่รัฐบาลตุรกีเชื่อมั่นว่ามีเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาอิสลามชื่อดังวัย 75 ปี ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับประธานาธิบดีแอร์โดอัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ กูเลนซึ่งเคยเป็นคนใกล้ชิดของแอร์โดอันมาก่อน ได้ลี้ภัยไปยังสหรัฐฯ ในปี 1999 โดยปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเพนน์ซิลเวเนีย แต่ถึงกระนั้นกลุ่มเคลื่อนไหวฮิซเม็ต (Hizmet) ของเขายังถือว่ามีอิทธิพลอย่างสูงในวงการสื่อสารมวลชน ตลอดจนแวดวง ตำรวจ และตุลาการของตุรกี
