xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” ชี้แผนการในซีเรียของ “คลินตัน” จะก่อ “สงครามโลกครั้งที่ 3”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีผู้สมัครชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ออกมาโจมตีนโยบายยุติสงครามซีเรียของ ฮิลลารี คลินตัน ว่าอาจนำไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” เพราะอาจยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์เช่นกัน

ในการให้สัมภาษณ์ที่เน้นเรื่องนโยบายต่างประเทศ ทรัมป์ระบุว่า การปราบกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้สิ้นซากเป็นเรื่องสำคัญกว่าการกดดันให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ยอมสละอำนาจ อย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดเป็นเป้าหมายมาโดยตลอด

ทรัมป์ วัย 70 ปี ยังตั้งคำถามว่า คลินตันจะกลับไปคืนดีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้อย่างไร หลังจากที่ปรามาสด่าทอผู้นำหมีขาวราวกับเป็นยักษ์เป็นมาร

มหาเศรษฐีปากเปราะตำหนิประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ โรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำคนใหม่ของฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งโอดครวญว่าคนในพรรครีพับลิกันขาดความเป็นเอกภาพ และตนคงจะชนะศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ได้ไม่ยากหากแกนนำพรรคพร้อมใจกันสนับสนุน

“ถ้าพรรคเรามีความเป็นเอกภาพ เราจะไม่มีวันแพ้ให้กับ ฮิลลารี คลินตัน” ทรัมป์ กล่าว

ในเรื่องของสงครามกลางเมืองซีเรีย ทรัมป์ชี้ว่า แนวทางยุติความขัดแย้งอย่างแข็งกร้าวที่ คลินตัน เสนออาจทำให้สหรัฐฯ ต้องเดินเข้าสู่ “สงครามโลก” ครั้งใหม่

คลินตัน ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน (no-fly zone) และ “เขตปลอดภัย” (safe zones) เพื่อปกป้องพลเรือนซีเรียที่ไม่มีส่วนในการสู้รบ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเกรงว่า การประกาศพื้นที่คุ้มกันเช่นนี้เสี่ยงที่จะทำให้สหรัฐฯ ต้องขัดแย้งโดยตรงกับฝูงบินขับไล่ของรัสเซีย

“สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือปราบปรามไอเอส เราไม่ควรเน้นปัญหาภายในซีเรียมากเกินไป” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ขณะกำลังรับประทานไข่ดาวและไส้กรอกอยู่ที่สนามกอล์ฟ ทรัมป์ เนชันแนล ดอรัล

“ปัญหาซีเรียจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ถ้าคุณเชื่อคำพูด ฮิลลารี คลินตัน”

“เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะไม่ได้รบกับซีเรียอีกต่อไป แต่จะต้องรบกับทั้งซีเรีย รัสเซีย และอิหร่านพร้อมกัน เข้าใจไหม? รัสเซียเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นประเทศที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ ในขณะที่บางประเทศดีแต่พูด”

ทีมหาเสียงของ คลินตัน ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์นี้ โดยระบุว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ทรัมป์ ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำสูงสุดของอเมริกา

“นี่เป็นอีกครั้งที่เขาหยิบยกคำพูดของ ปูติน มาผลิตซ้ำ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวอเมริกัน แต่กลับไม่ชี้แจงว่าตัวเองมีแผนอย่างไรที่จะปราบไอเอส หรือจะบรรเทาความทุกข์ทรมานให้แก่ประชาชนในซีเรียได้อย่างไร” เจสส์ เลห์ริช โฆษกของคลินตัน ระบุในคำแถลง

ทรัมป์ เตือนว่า เวลานี้รัฐบาลอัสซาดเข้มแข็งยิ่งกว่าเมื่อ 3 ปีก่อน และการจะบีบ อัสซาด ให้ลงจากเก้าอี้นั้นไม่สำคัญเท่ากับการกำจัดไอเอส

“อัสซาด เป็นแค่เรื่องรอง สำหรับผมไอเอสต้องมาก่อน” ทรัมป์ กล่าว

อดีตดาราเรียลลิตีโชว์ผู้นี้ยังเอ่ยถึงเรื่องที่ คลินตัน วิจารณ์ผู้นำรัสเซียอย่างรุนแรง และตั้งคำถามว่า “เธอจะกลับลำไปขอเจรจากับชายที่เธอประณามว่าเลวทรามนักหนาได้อย่างไร” หากเธอได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ที่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ นั้น ทรัมป์ ได้ติเตียน โอบามา ว่า “มัวแต่เอาเวลาไปตีกอล์ฟ” มากกว่าผูกสัมพันธ์กับผู้นำต่างประเทศ

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดูเตอร์เต ก็แสดงจุดยืนไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ มาตลอด โดยปฏิเสธเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับสงครามยาเสพติดที่ทำให้มีคนถูกสังหารไปกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ยังใช้วาทกรรม “ลูกกะหรี่” กับ โอบามา และขอร้องสหรัฐฯ ว่าอย่าปฏิบัติต่อฟิลิปปินส์เหมือน “สุนัขที่ถูกปลิงเกาะ”

ทรัมป์ ชี้ว่าคำพูดของ ดูเตอร์เต แสดงให้เห็นว่าเขา “ไม่มีความเคารพต่อประเทศของเราเลย”

เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ทว่าคะแนนนิยมของ ทรัมป์ ยังคงตามหลัง คลินตัน อยู่ห่างพอสมควร

ทรัมป์ กล่าวหาสื่อมวลชนว่า “แทรกแซงผลการเลือกตั้ง” และเตือนว่าประชาชนที่เป็นฐานเสียงของเขารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของผู้นำพรรครีพับลิกัน

“ประชาชนกำลังโกรธแค้นผู้นำเหล่านี้ เพราะนี่คือการเลือกตั้ง และเราจะชนะแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าได้รับการสนับสนุนจากในคนพรรคตั้งแต่ระดับบนลงมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เชื่อว่าเราจะชนะอยู่ดี” ทรัมปกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น