เอเจนซีส์ - การค้นหาเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่หายสาบสูญไปนั้น คาดว่า จะมีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 สำหรับการหายไปของเครื่องบินลำดังกล่าว
สภาพอากาศที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ความคืบหน้านั้นเป็นไปอย่างล่าช้า สำหรับการค้นหาใต้ทะเลที่ประสานงานโดยสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งออสเตรเลีย (ATSB)
เดิมทีพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตรทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียนั้น คาดว่า จะถูกค้นหาจนทั่วในช่วงกลางปี 2016 แต่แล้วก็ต้องขยายเวลามาจนถึงเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เพิ่งมีประกาศของ ATSB ในวันพุธ (19 ต.ค.) ว่า ตอนนี้การค้นหาจนทั่วพื้นที่เป้าหมายนั้นน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงมกราคม - กุมภาพันธ์ 2017 โดยมีพื้นที่เหลือให้ค้นหาอีกไม่ถึง 10,000 ตารางกิโลเมตร
มีการระบุถึงเหตุผลที่ทำให้เกิดความล่าช้าว่าเป็นเพราะสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกทางใต้
ตอนนี้ไม่มีเรือลำใดดำเนินกิจกรรมอยู่ในพื้นที่ค้นหา โดยในส่วนของเรือ “ฟูโกร อีควอเตอร์” ได้เดินทางกลับท่าเรือไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ขณะที่เรือ “ดอง ไฮ จิว 101” ยังคงเทียบท่าอยู่ที่เมืองฟรีแมนเทิล ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
เรือทั้งสองได้ติดตั้งอุปกรณ์ค้นหาใต้ทะเลที่ควบคุมด้วยรีโมต ซึ่งจะถูกปล่อยออกค้นหาอีกครั้งเมื่อสภาพอากาศดีขึ้น มันจะตรวจสอบบริเวณจุดที่น่าสนใจ ก่อนที่จะมีการระบุตัวตนของสิ่งนั้นด้วยเจ้า towfish ซึ่งเป็นอุปกรณ์โซนาร์ใต้ทะเล ที่ถูกลากตามหลังเรือค้นหา
ATSB ระบุว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณโซนาร์ที่ดูคล้ายกับซากเครื่องบิน แต่มีสัญญาณที่ดูคล้ายสิ่งของที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ และต้องมีการตรวจสอบเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้จนถึงตอนนี้ยังไม่ส่งอุปกรณ์ลงไปตรวจสอบได้อย่างปลอดภัย
การครบรอบปีที่ 3 สำหรับการหายสาบสูญไปของเที่ยวบิน MH370 จะมาถึงในวันที่ 8 มีนาคม 2017 เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งหายไปพร้อมกับ 239 ชีวิตบนเครื่อง ขณะเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าสู่ปักกิ่ง
