เอเอฟพี - นักสืบสวนมือสมัครเล่นชาวอเมริกันรายหนึ่งได้ส่งมอบสิ่งที่อาจเป็นซากของเที่ยวบิน MH370 ให้กับเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียในวันจันทร์ (12 ก.ย.) โดยมีการระบุด้วยว่า ชิ้นส่วนเหล่านั้นมีสภาพไหม้เป็นสีดำ เพิ่มน้ำหนักของโอกาสที่จะเกิดไฟไหม้บนเครื่องบินลำดังกล่าว
ชะตากรรมของเที่ยวบิน MH370 จากสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ ยังคงเป็นเรื่องลี้ลับ นับตั้งแต่หายสาบสูญไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 ราย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 ขณะเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าไปปักกิ่ง
เชื่อกันว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำดังกล่าว ได้ตกลงบริเวณทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย หลังบินออกนอกเส้นทางแบบอธิบายไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่พบว่าเครื่องบินลำนี้อยู่ที่ไหน แม้จะมีการค้นหาใต้ทะเลกันอย่างเข้มข้นบริเวณนอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย
สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งออสเตรเลีย (ATSB) ซึ่งได้ร่วมการค้นหา ระบุว่า เบลน กิบสัน ได้ส่งมอบซากชิ้นส่วนที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไร ให้กับทางสำนักงานในวันจันทร์
“เรากำลังขอคำแนะนำจากทางการมาเลเซีย ว่า พวกเขาอยากจะจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร” โฆษกของ ATSB บอกเอเอฟพี
กิบสันได้บอกนักข่าวท้องถิ่น ว่า ซากชิ้นส่วนพวกนั้นเกยตื้นในมาดากัสกา ในจำนวนนั้นมีบางชิ้นที่ดูเหมือนจะเป็นชิ้นส่วนภายในของเครื่องบิน เขาจึงได้นำชิ้นส่วนเหล่านั้นมามอบให้ทางการออสเตรเลีย เพื่อทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์
“สีที่ชั้นนอกสุดมีรอยไหม้ดำเกรียม มันยังแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของการละลาย ดังเช่นที่คุณจะเห็นได้เวลามีอะไรสักอย่างไหม้” เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ของออสเตรเลีย
“มันดูเหมือนจะเป็นชิ้นส่วนจากภายในเครื่องบิน แต่ไม่ใช่ของห้องโดยสารหลัก บางทีอาจจะเป็นบริเวณที่เก็บสินค้า บางทีอาจจะเป็นบริเวณแผงระบบการบิน” เขากล่าว
กิบสัน นักกฎหมายจากซีแอตเติล บอกกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย ว่า ชิ้นส่วนพวกนี้อาจจะเป็นตัวพลิกเกมได้เลยทีเดียว หากพบว่ามันเป็นของเที่ยวบิน MH370
“มีทฤษฎีหนึ่งที่คาดว่าเกิดไฟไหม้บนเครื่องบิน แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนทฤษฎีนี้” กิบสัน กล่าว
ซากชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกส่งมอบในช่วงที่ญาติ 8 รายของคนบนเที่ยวบิน MH370 ได้มาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ATSB เป็นการส่วนตัว
ญาติเหล่านั้นที่มาจากจีน มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย เคยโผล่มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยขึ้นเรือลำหนึ่งในบรรดาเรือค้นหาของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
ออสเตรเลียได้นำขบวนค้นหาครั้งใหญ่ในพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ค้นหาที่กำหนดไว้ว่าจะต้องดูให้ทั่วภายในเดือนธันวาคม
แต่การค้นหาใต้ทะเลจนถึงตอนนี้ก็ยังคงคว้าน้ำเหลว โดยพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบินลำดังกล่าวเพียงชิ้นเดียว ทำให้คาดการณ์กันว่าจุดตกอาจจะอยู่นอกพื้นที่ค้นหาปัจจุบัน
พื้นที่ค้นหาเหล่านั้นถูกกำหนดไว้โดยใช้ “ความน่าจะเป็น” เพราะไม่มีใครรู้ว่าเครื่องบินน้ำมันหมดตรงไหน
ซากชิ้นส่วนแรกของ MH370 ที่ถูกพบนั้น เป็นชิ้นส่วนปีกขนาด 2 เมตร เกยติ้นที่เกาะเรอูนิยงของฝรั่งเศส ในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2015
นับตั้งแต่นั้นมา ซากชิ้นส่วนที่อาจเชื่อมโยงกับเครื่องบินลำดังกล่าวก็ถูกพบอยู่ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย