xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายบุกกราดยิงค่ายผู้อพยพแอฟริกากลาง สังเวยอย่างน้อย 11 ศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากเอเอฟพี
เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และอีกกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในวันเสาร์ (15 ต.ค.) จากการบุกเข้ามาจู่โจมของมือปืนกลุ่มหนึ่งในค่ายผู้อพยพที่เมืองเอ็นกาโคโบที่อยู่ห่างจากกรุงบังกี เมืองหลวงของสาธารณรัฐแอฟริกากลางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 300 กิโลเมตร ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของสำนักงานสหประชาชาติในพื้นที่

ในคำแถลงซึ่งออกเป็นภาษาฝรั่งเศสของกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (MINUSCA) ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุตัวตนของกลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ได้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (12 ต.ค.) มีรายงานพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 57 รายจากเหตุรุนแรงในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส

รายงานข่าวระบุว่า เหตุรุนแรงและการกระทบกระทั่งกันระลอกล่าสุดระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 57 ราย

ข้อมูลจากกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (MINUSCA) ที่มีการเผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ระบุว่า กองกำลังของยูเอ็นสามารถสังหารอดีตสมาชิกกลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกาได้ 12 รายที่เมืองคากาบองโดโร ที่เป็นศูนย์กลางด้านการค้าขายทางภาคกลางของประเทศ

รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางด้านความมั่นคงในกรุงบังกีระบุว่า อดีตสมาชิกกลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกาดังกล่าว พร้อมด้วยผู้สนับสนุน ได้เริ่มก่อความรุนแรงกับชุมชนชาวคริสต์ในเมืองดังกล่าวเพราะโกรธแค้นที่สมาชิกของฝ่ายตนรายหนึ่งถูกฆ่าตายขณะพยายามขโมยเครื่องปั่นไฟจากสถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส เคยประกาศเมื่อ 13 ก.ค. ว่าจะยุติการแทรกแซงทางทหารต่อสาธารณรัฐแอฟริกากลางในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากที่กำลังทหารจากแดนน้ำหอมที่เคยมีจำนวนกว่า 2,500 นายถูกส่งเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในอดีตดินแดนอาณานิคมแห่งนี้ ภายใต้ปฏิบัติการ “Operation Sangaris” นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2013 เป็นต้นมา เพื่อยุติการนองเลือดในดินแดนแห่งนี้ที่ติดอันดับยากจนข้นแค้นที่สุดในโลก

ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำแดนน้ำหอม เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่ปารีส โดยระบุ ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องดังกล่าวนี้ จะเดินทางเยือนสาธารณรัฐแอฟริกากลางอย่างเป็นทางการเพื่อประกาศการยุติปฏิบัติการซองการีส์ในเดือนตุลาคม พร้อมกับนำกำลังทหารฝรั่งเศสที่ถูกลดจำนวนเหลืออยู่ราว 350 นายในเวลานี้ออกจากแผ่นดินของอดีตดินแดนอาณานิคมของตน

ที่ผ่านมากำลังทหารฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในการช่วยยุติการเข่นฆ่ากันเป็นรายวันระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาในประเทศนี้มากกว่า 12,000 คน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมถึงพลเรือนชาวต่างชาติมากกว่า 500 คน

ทั้งนี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งติดอันดับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดและยากจนข้นแค้นที่สุดในโลก ได้ถลำลึกลงสู่ความขัดแย้งนองเลือดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2013 หลังจากที่กลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” โค่นอำนาจรัฐบาลกลางในกรุงบังกี ที่นำโดยประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ โบซิเซที่เป็นชาวคริสต์ และเริ่มสังหารหมู่ชาวคริสต์แบบบ้าคลั่ง เป็นเหตุให้ชาวคริสต์ในแอฟริกากลางตั้งกลุ่มติดอาวุธ “แอนตี้-บาลากา” ขึ้นเพื่อฆ่าล้างแค้นชาวมุสลิมบ้าง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากซึ่งไม่อาจประเมินตัวเลขได้แน่ชัด

ตามข้อมูลของยูเอ็น ความขัดแย้งในสาธารณรัฐแอฟริกากลางส่งผลให้เกิดคลื่นผู้อพยพภายในประเทศสูงกว่า 399,000 ราย ขณะที่ชาวแอฟริกากลางอีกมากกว่า 460,000 รายต้องหนีตายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น