เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันปิดในกรอบแคบๆ เมื่อวันอังคาร (6 ก.ย.) ความเป็นไปได้เกี่ยวกับข้อตกลงตรึงกำลังผลิตยังไม่ชัดเจน ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นและทองคำพุ่งแรง คาดข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ จะช่วยยับยั้งไม่ให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 44.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 37 เซ็นต์ ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.) ราคาน้ำมันขยับขึ้นหลังจากรัสเซีย ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปก และซาอุดีอาระเบีย ประกาศร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน แม้เจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศบอกว่ายังไม่เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการตรึงกำลังผลิต
อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวอ่อนลงไปในวันอังคาร (6 ก.ย.) หลังประธานาธิบดี ฮัสเซน รูฮานี ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยโอเปกว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับอิหร่านที่จะกู้คืนกำลังผลิตในระดับก่อนหน้าถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ แม้ประเทศของเขาจะสนับสนุนความพยายามของโอเปกในการฟื้นฟูเสถียรภาพของราคาน้ำมันก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (6 ก.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังข้อมูลเศรษฐกิจช่วยส่งเสริมมุมมองที่ว่าธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 46.16 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,538.12 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 6.50 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,186.48 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 26.01 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,275.91 จุด
ตัวเลขที่อ่อนแอเกินคาดหมายในภาคบริการของสหรัฐฯ ประจำเดือนสิงหาคม เสริมมุมมองว่าเฟดจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นได้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ และเฟดเคยประกาศว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยตราบใดที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวแข็งแกร่งเพียงพอ
ความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังคงดอกเบี้ยต่อไปส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และปัจจัยนี้ช่วยดันให้ราคาทองคำพุ่งแรงเมื่อวันอังคาร (6 ก.ย.) โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 27.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,354.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์