เอเจนซีส์ - อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซาอุดีอาระเบียว่าบริหารจัดการพิธีฮัจญ์ผิดพลาด จนเป็นเหตุให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตไปหลายร้อยคนเมื่อปีที่แล้ว พร้อมเรียกร้องให้ชาติมุสลิมพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์ของริยาดในการดูแลพิธีฮัจญ์ ขณะที่ซาอุฯ ก็แถลงตอบโต้วันนี้ (6 ก.ย.) ว่าอิหร่านพยายามนำ “การเมือง” มาเชื่อมโยงกับพิธีกรรมทางศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์
“รัฐบาลอิหร่านไม่ยอมให้ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านเดินทางมาที่นี่ด้วยเหตุผลของพวกเขาเองทั้งสิ้น... อิหร่านพยายามนำการเมืองมาโยงกับพิธีฮัจญ์ และเปลี่ยนมันให้เป็นพิธีกรรมที่ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลาม ซึ่งอาจบั่นทอนความปลอดภัยของผู้ที่เดินทางมาทำฮัจญ์” สำนักข่าวเอสพีเออ้างพระราชดำรัสของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงตรวจดูความพร้อมก่อนที่พิธีฮัจญ์จะเริ่มในวันที่ 11 ก.ย.
ในฐานะผู้ดูแล 2 มัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ในนครมะดีนะห์และเมกกะ รัฐบาลซาอุฯ รับหน้าที่กำกับดูแลการประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เสาหลักของศาสนาอิสลามที่มุสลิมผู้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและกำลังทรัพย์จะต้องเดินทางไปให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต
ข้อมูลจากทางการซาอุฯ ระบุว่า ในปี 2015 มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตระหว่างพิธีฮัจญ์ทั้งสิ้น 769 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดถัดจากเหตุเหยียบกันตายในปี 1990 อย่างไรก็ตาม เมื่อนับรวมตัวเลขจากประเทศต่างๆ ที่รับศพพลเมืองของตนกลับ พบว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 2,000 คน และกว่า 400 คนเป็นชาวอิหร่าน
รัฐบาลอิหร่านได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ซึ่งระบุว่า “เนื่องจากผู้ปกครองซาอุฯ ได้ทำการกดขี่ต่อแขกของพระเจ้า (ผู้แสวงบุญ) โลกอิสลามจึงควรหันมาทบทวนเรื่องการบริหารจัดการ 2 มัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ และการประกอบพิธีฮัจญ์ อย่างจริงจัง”
“พวกชาวซาอุฯ เลือดเย็นเอาคนเจ็บไปรวมไว้กับคนตาย แทนที่จะรีบปฐมพยาบาลและช่วยเหลือพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ให้น้ำประทังความหิวกระหายก็ยังดี... พวกเขานั่นแหละที่เป็นฆาตกรฆ่าผู้แสวงบุญ”
“ชาติมุสลิมทั้งหลายต้องไม่ปล่อยให้ผู้ปกครองเหล่านี้ปฏิเสธความรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่พวกเขาได้ก่อขึ้นในโลกอิสลาม” คอเมเนอี กล่าว พร้อมพาดพิงเรื่องที่ซาอุฯ เข้าไปสนับสนุนขั้วตรงข้ามกับเตหะรานในสงครามอิรัก เยเมน และซีเรีย
ด้านริยาดก็โต้กลับว่า อิหร่านบั่นทอนความมั่นคงของบรรดารัฐอาหรับด้วยการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย เลบานอน อิรัก และเยเมน ทั้งยังปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบาห์เรนและซาอุดีอาระเบียด้วย ซึ่งรัฐบาลอิหร่านไม่ยอมรับข้อกล่าวหาเหล่านี้
อิหร่านโทษว่าเหตุที่ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายมากมายในปี 2015 เกิดจากความไร้ศักยภาพของซาอุฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพิธี และการเจรจาเรื่องโควตาผู้แสวงบุญที่ล้มเหลวไปในเดือน พ.ค. ส่งผลให้ชาวอิหร่านไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ได้