เอพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ตกลงจะพบปะหารือส่วนตัวกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ครั้งที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้อีกครั้ง หลังจากที่คนทั้งคู่ได้พบปะหารือส่วนตัวเป็นเวลา 90 นาทีในวันนี้ (5 ก.ย.) ในการประชุมซัมมิต G20 ในจีน
เอพีรายงานวันนี้ (5 ก.ย.) ว่า โฆษกทำเนียบขาว เน็ด ไพรซ์ (Ned Price) แถลงยืนยันว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ตกลงหารือแบบส่วนตัวกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินในการประชุมแบบนอกรอบของซัมมิต G20 จริง แต่ทว่าในรายละเอียดนั้น ทางทำเนียบขาวจะออกแถลงการณ์เพิ่มเติมในภายหลัง
เอพีรายงานต่อว่า กำหนดการพบปะจะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหนังสือวอชิงตันโพสต์รายงานล่าสุดความคืบหน้าการประชุมซัมมิต G20 จากจีน โดยอ้างถึงแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯระบุว่า ทั้งโอบามาและปูตินได้พบปะหารือส่วนตัวเป็นเวลานาน 90 นาที ในวันจันทร์(5 ก.ย)
แหล่งข่าวทำเนียบขาวคนเดิมยังระบุต่อว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างได้กล่าวถึงปัญหาการเจรจาหยุดยิงซีเรีย โดยต่างย้ำถึงจุดยืนในส่วนของตนออกมาให้รับรู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ได้มาซึ่งการบรรลุข้อตกลงร่วม และในการหารือวันนี้ ทั้งโอบามาและปูตินต่างกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมาถึงการนัดหมายเจรจาครั้งต่อไปที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด วอชิงตันโพสต์รายงาน
การพบปะหารือระหว่างผู้นำสองชาติมหาอำนาจเกิดขึ้นท่ามกลางพยายามในการเจรจาของทั้งวอชิงตันและเครมลินในการบรรลุข้อตกลงเพื่อให้ได้มาในการทำให้สงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อจบสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาตัวแทนการเจรจาการทูตระดับสูงของทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาจุดร่วมกันทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ เอพีชี้
และในปัญหาที่เอพีคาดว่า อาจจะเป็นประเด็นในการเจรจาระหว่างโอบามาและปูติน คือ ปัญหายูเครน ซึ่งทางวอชิงตันมีความวิตกเพิ่มมากขึ้นในความอึมครึมที่ตรึงเครียดหนักตามลำดับระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี และรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ต่างยังไม่สามารถประสบความสำเร็จบรรลุในข้อตกลงปัญหาซีเรียได้ ในการหารือช่วงเช้า
โดยพบว่า ตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศทั้งสองต่างพยายามหาทางออกให้มีการยุติยิงสู้รบระหว่างประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัสซาด และกลุ่มกบฎซีเรียสายกลาง เพื่อที่จะทำให้ความช่วยเหลือทางสาธารณภัยสามารถส่งเข้าไปยังประชาชนซีเรียจำนวนมากที่ติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้
อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ที่ว่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือทางการทหารระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียต่อต้านกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย