เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกซ้อนไปตกในทะเลญี่ปุ่นเมื่อช่วงที่ผ่านมา (5 ก.ย.) ถือเป็นการท้าทายต่อบรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมกลุ่ม G20 ในจีน
โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 ลูกถูกยิงออกจากมณฑลฮวางจู (Hwangju) ไปตกลงในทะเลญี่ปุ่นเมื่อเวลาราว 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (10.00 น.ตามเวลาในไทย) ซึ่งเป็นการข่มขู่ครั้งล่าสุดจากผู้นำคิม จองอึน หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ (SLBM) ไปตกในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่นเมื่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อน
“เราคาดว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธโรดอง (Rodong) ซึ่งมีพิสัยเดินทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร” โฆษกกระทรวงกลาโหมโสมขาวระบุ
“การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถือว่าละเมิดคำสั่งห้ามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างโจ่งแจ้ง และเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีเจตนาโอ้อวดศักยภาพด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธในช่วงที่จีนเป็นเจ้าภาพการประชุม G20”
ด้านกระกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 ลูกน่าจะตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของแดนอาทิตย์อุทัยด้วย
“กระทรวงขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการยิงขีปนาวุธครั้งนี้ เนื่องจากเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น”
การทดสอบจรวดครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีนได้หารือนอกรอบกับประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ที่เมืองหางโจว
ล่าสุด สหรัฐฯ ได้ออกมาประณามพฤติกรรมของเกาหลีเหนือว่าเป็นภัยคุกคามต่อพันธมิตรของอเมริกา และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเครื่องบินพลเรือนได้ พร้อมยืนยันว่าวอชิงตันจะมีมาตรการตอบโต้ทางการทูตต่อเปียงยาง
“การยิงขีปนาวุธอย่างไร้ความยับยั้งชั่งใจของเกาหลีเหนือในวันนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเครื่องบินพลเรือน และการเดินเรือสินค้าในภูมิภาค” เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุม G20 ที่นครหางโจว และย้ำว่าวอชิงตัน “จะชักชวนนานาชาติร่วมกดดันเกาหลีเหนือให้ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำยั่วยุเช่นนี้”
เกาหลีเหนือได้โอ้อวดศักยภาพของระบบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยล่าสุดคือการยิงจรวด SLBM เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความสำเร็จของเกาหลีเหนือครั้งนั้นถือเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่เป้าหมายในการครอบครองขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์
จีนนั้นได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตรหลักเพียงหนึ่งเดียว และมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือมากที่สุด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติก็เริ่มที่จะมึนตึงในระยะหลัง เนื่องจากเปียงยางเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธบ่อยๆ จนก่อความตึงเครียดในภูมิภาค
แม้จะไม่พอใจที่เปียงยางยังดื้อรั้นพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างไม่ลดละ แต่จีนก็ไม่ต้องการให้ระบอบคอมมิวนิสต์ในเกาหลีเหนือล่มสลาย เพราะนั่นอาจทำให้สองเกาหลีรวมตัวกลายเป็นประเทศพันธมิตรขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่อยู่ประชิดพรมแดนจีน