ปัญหาผู้อพยพทำพิษ! นายกฯ หญิงเหล็ก “แมร์เคิล” แพ้ยับเยินศึกเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองเบียร์

เอเจนซีส์ / MGR online - นโยบายเปิดประตูรับผู้อพยพเข้าประเทศกลายเป็นต้นตอสำคัญที่ส่งผลให้นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี จ่อต้องประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญในวันอาทิตย์ (4 ก.ย.) ในสนามการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น สวนทางกับพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดซึ่งมีนโยบายต้านผู้อพยพที่เป็นฝ่ายกวาดที่นั่งได้อย่างสำคัญ

รายงานข่าวระบุว่า พรรคคริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน (ซีดียู) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก อังเกลา แมร์เคิล จ่อประสบความพ่ายแพ้ครั้งเลวร้ายในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในวันอาทิตย์ (4 ก.ย.) ที่รัฐเมคเลนบวร์ก-เวสต์ โปเมราเนีย ทางตะวันออกของประเทศ

โดยรายงานข่าวซึ่งอ้างผล “เอ็กซิตโพล” ระบุ พรรคการเมืองของนางแมร์เคิลจ่อได้คะแนนโหวตตามมาเป็นลำดับที่ 3 เท่านั้น ตามหลังพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอย่างโซเชียล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (เอสพีดี) ที่ได้คะแนนเสียงโหวตราว 30 เปอร์เซ็นต์ และพรรคการเมืองขวาจัดที่ชูนโยบายต่อต้านผู้อพยพอย่าง “AfD” ที่เพิ่งก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2013 และส่งผู้สมัครลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่คาดว่าจะได้คะแนนเสียงราว 21 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่พรรคซีดียูของนางแมร์เคิลจ่อเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 3 ด้วยคะแนนเสียงที่ต่ำเตี้ยเพียง 19 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับพรรครัฐบาลเมืองเบียร์ที่มีกำหนดต้องลงสู่สนามการเลือกตั้งทั่วไปหรือ “การเลือกตั้งใหญ่” ในปีหน้า

“บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้น สู่จุดจบของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิลก็เป็นได้” ไลฟ์-เอริค โฮล์ม แกนนำพรรค AfD กล่าว

ทั้งนี้ รัฐเมคเลนบวร์ก-เวสต์ โปเมราเนีย ถือเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเยอรมันตะวันออกในอดีต และในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในรัฐที่ได้ชื่อว่ายากจนข้นแค้นที่สุดของเยอรมนี

ก่อนหน้านี้ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในเยอรมนีที่มีการนำออกเผยแพร่ในวันเสาร์ (3 ก.ย.) พบข้อมูลที่ระบุว่า มีชาวเยอรมันจำนวน 44 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ที่สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีหญิง อังเกลา แมร์เคิล ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลเมืองเบียร์เป็นสมัยที่ 4 ในปีหน้า

ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวที่จัดทำโดยสำนักวิจัย “TNS Emnid” และมีการนำออกเผยแพร่ในวันเสาร์ (3 ก.ย.) ในหนังสือพิมพ์ดัง “Westdeutsche Allgemeine Zeitung” ระบุว่า มีชาวเยอรมันจำนวน 44 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ที่สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีหญิง อังเกลา แมร์เคิล ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลเมืองเบียร์เป็นสมัยที่ 4 ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2017

ไม่เพียงแต่ตัวของนางแมร์เคิลเท่านั้นที่กำลังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาครั้งเลวร้ายจากผลพวงของการดำเนินนโยบายอ้าแขนรับผู้อพยพเข้าประเทศ เห็นได้จากการที่รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อย่าง ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเยอร์ ก็ได้รับแรงสนับสนุนทางการเมืองจากกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้เพียง 38 เปอร์เซ็นต์ ให้ลงชิงชัยในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ขณะที่รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน ซิกมาร์ กาเบรียล ที่เป็นผู้นำพรรคโซเชียล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (SPD) พรรคการเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของเยอรมนี มีแรงสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในปีหน้าต่ำเตี้ยเพียงแค่ 16 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วมีการเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นในเยอรมนีอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งพบว่าประชากรเมืองเบียร์ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุน และไม่เชื่อน้ำยาว่า นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก อังเกลา แมร์เคิล จะประสบความสำเร็จในการดำเนินนโยบาย “เปิดประตู” รับผู้อพยพเข้าประเทศ

ผลสำรวจดังกล่าวโดยสำนักวิจัย “YouGov” ที่มีการเผยแพร่ในวันที่ 30 ก.ค. พบข้อมูลที่ระบุ กลุ่มตัวอย่างชาวเยอรมันร้อยละ 66 จากจำนวนผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด 1,017 คน ไม่สนับสนุนและไม่เชื่อมั่นในนโยบาย “เปิดประตูรับผู้อพยพเข้าประเทศ” ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ว่าจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี และเหมาะสมสำหรับสังคมและเศรษฐกิจของเยอรมนี

ผลสำรวจดังกล่าวของ YouGov ที่จัดทำขึ้น โดยการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างทั่วเมืองเบียร์ในระหว่างวันที่ 26-29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่า มีชาวเยอรมันในขณะนี้เพียงร้อยละ 27 เท่านั้นที่สนับสนุนนโยบายนี้ของนางแมร์เคิล

ผลสำรวจที่ออกมา ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างชาวเยอรมันสูงถึงร้อยละ 66 ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายรับผู้อพยพเข้าประเทศนั้น ถือเป็นผลสำรวจที่มีสัดส่วนของผู้คัดค้านนโยบายนี้ในระดับสูงสุด นับตั้งแต่ผลสำรวจที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปีที่แล้ว ที่พบว่าในเวลานั้นมีชาวเยอรมันร้อยละ 51 ไม่ปลื้มกับนโยบาย “ชักปัญหาเข้าบ้าน” ของนายกรัฐมนตรีหญิงเมืองเบียร์

ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดถูกเผยแพร่ออกมา ภายหลังจากที่นางแมร์เคิลเพิ่งกล่าวสุนทรพจน์ยืนยันจะไม่ขอทบทวนนโยบายเปิดประตูรับผู้อพยพที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมจากซีเรีย และอัฟกานิสถาน เข้าประเทศ พร้อมกับการยืนยันว่าชีวิตและทรัพย์สินของคนเยอรมันจะยังคงปลอดภัย ถึงแม้จะมีผู้อพยพจำนวนมากจากต่างวัฒนธรรมและต่างศาสนาเข้ามาอาศัยในประเทศ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุ จำนวนผู้อพยพจากซีเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน ที่เดินทางเข้าสู่แผ่นดินยุโรปไปแล้วเมื่อนับถึงเดือนมีนาคมปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 4,812,993 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มากกว่า 600,000 รายได้ลงทะเบียนขอลี้ภัยในเยอรมนีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อนับถึงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา