xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” กลบเกลื่อน บอก จนท.จีน-สหรัฐฯ ทะเลาะกันที่สนามบินขณะเขามาประชุมซัมมิต จี20 เป็น “ความแตกต่างทางค่านิยม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ลงจากเครื่องบินประจำตัว “แอร์ฟอร์ซวัน” ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีนในวันเสาร์ (3 ก.ย.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมซัมมิตของกลุ่มจี20  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกับเจ้าหน้าที่จีนได้ทะเลาะกันอย่างโกรธเกรี้ยว ระหว่างการรอต้อนรับโอบามาลงจากเครื่องบิน  โดยที่ร่องรอยแรกที่แสดงให้เห็นถึงความยุ่งเหยิง ก็คือ ไม่มีการจัดเตรียมบันไดมาเทียบ เพื่อให้โอบามาเดินลงมายังพรมแดงที่ปูไว้ต้อนรับ  ทำให้โอบามาต้องเดินลงทางบันไดของเครื่องบินเอง </i>
เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ กล่าวในวันนี้ (4 ก.ย.) ถึงเหตุการณ์การทะเลาะเบาะแว้งกันในสนามบินนครหางโจว, ประเทศจีน ระหว่างพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กับจีน ซึ่งก่อให้เกิดบรรยากาศอันขุ่นมัวตั้งแต่ตอนเริ่มต้นการประชุมซัมมิตกลุ่ม 20 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี20) โดยเขาแสดงทัศนะแบบอเมริกันจ๋า ว่า เรื่องนี้ตอกย้ำให้เห็นช่องว่างความแตกต่างด้านความคิดเห็นของสองประเทศในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของสื่อมวลชน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่ของฝ่ายจีน กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ตลอดจนการวิวาททางการทูตอื่น ๆ ระหว่างสองประเทศ ได้เผยโฉมให้เห็นตั้งแต่ขณะที่ “แอร์ ฟอร์ซ วัน” เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน ลงจอดที่หางโจว อันเป็นสถานที่จัดการประชุมของเหล่าผู้นำ จี20 คราวนี้

โดยสัญญาณลำดับแรกสุดของความยุ่งเหยิง ก็คือ ไม่มีบันไดเทียบเพื่อให้โอบามาลงจากเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำนี้ และก้าวลงบนพรมแดงที่ปูไว้ต้อนรับ ทำให้โอบามาต้องหันไปใช้ทางออกสำรองแทน

ส่วนตรงบริเวณทางวิ่งของเครื่องบิน สำนักข่าวเอเอฟพี บอกว่า ตามธรรมเนียมของฝ่ายอเมริกัน ในเวลาที่โอบามาเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ พวกนักข่าวซึ่งติดตามมาด้วยกันกับคณะของเขา จะถูกนำไปรอบริเวณใต้ปีกของ “แอร์ ฟอร์ซ วัน” เพื่อสังเกตการณ์และถ่ายภาพเขาขณะเดินทางมาตามบันไดเครื่องบิน ทว่า ในคราวนี้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของจีนได้กั้นเชือกสีน้ำเงินไม่ให้เข้าไปบริเวณนั้น แต่ให้รอตรงบริเวณด้านนอกเชือกกั้น

เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนยังเรียกร้องให้พวกสื่อมวลชนอเมริกันออกไปจากบริเวณนั้นไปเลย โดยที่มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวด้วย

เจ้าหน้าที่หญิงของทำเนียบขาว ซึ่งคล้องกระเป๋าถืออยู่ที่แขนของเธอ บอกกับเจ้าหน้าที่ชายจีนผู้หนึ่ง ว่า นี่เป็นเครื่องบินอเมริกัน และเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โดยที่สหรัฐฯกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับผู้นำของตนเอง เจ้าหน้าที่จีนผู้นั้นซึ่งสวมสูทสีเข้ม ก็ตะโกนใส่เธอว่า “นี่คือประเทศของเรา!” และ “นี่คือสนามบินของเรา!”
<i>หนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติของฝ่ายสหรัฐฯในเวลาที่ผู้นำของตนเดินทางไปต่างประเทศ   คณะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ เข้าตรวจสอบส่วนต่างๆ ของท่าอากาศยานเมืองหางโจว ก่อนการเดินทางมาถึงของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อวันเสาร์ (3 ก.ย.) </i>
<i>เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของสหรัฐฯผู้หนึ่ง (ขวา) ใช้กล้องส่องทางไกลตรวจตราท่าอากาศยานเมืองหางโจว  ก่อนที่เครื่องบินของประธานาธบดีบารัค โอบามา จะเดินทางมาถึงเมื่อวันเสาร์ (3 ก.ย.) </i>
ครั้นเมื่อ ซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และ เบน โรดส์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว พยายามที่จะเข้าไปใกล้ ๆ ประธานาธิบดี โอบามา โดยยกเชือกกั้นสีน้ำเงินขึ้นและก้มตัวลอดผ่านเข้าไป เจ้าหน้าที่จีนผู้นั้นได้แสดงความโกรธเกรี้ยวใส่ไรซ์ และพยายามกั้นไม่ได้เธอเข้าไป

ขณะที่พวกเขาตอบโต้ใส่กันด้วยคำพูดกราดกริ้ว เจ้าหน้าที่จากหน่วยอารักขาผู้นำของสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่ติดตามไรซ์ ก็ได้เข้ามานำตัวเธอเดินผ่านเข้าไป

ไรซ์ กล่าวอย่างไม่พอใจในเวลาต่อมาว่า “พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย”
<i>ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ หัวเราะระหว่างการแถลงข่าวร่วมเมื่อวันอาทิตย์ (4 ก.ย.) ภายหลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ในการประชุมข้างเคียงการประชุมซัมมิตกลุ่ม จี20 ที่เมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน  ทั้งนี้ในการแถลงข่าวคราวนี้ เขาพูดถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างเจ้าหน้าที่จีนกับอเมริกันที่สนามบินหางโจวว่า เกิดขึ้นจากช่องว่างความแตกต่างด้านค่านิยม </i>
การระเบิดอารมณ์เข้าใส่กันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีน กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เช่นนี้ ปรากฏเปิดเผยต่อหน้าสื่อมวลชน ก่อนหน้าการพบปะเจรจากันซึ่ง ๆ หน้า ระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับ โอบามา โดยที่ผู้นำทั้งสองดูจะต่างกำลังมีความปรารถนาที่จะลดทอนความแตกต่างขัดแย้ง และหาพื้นที่ซึ่งสามารถที่จะคิดเห็นร่วมไปในทางเดียวกันได้

โอบามากล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมภายหลังพบปะหารือทวิภาคีที่หางโจว ในวันอาทิตย์ (4) กับ เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ว่า สหรัฐฯนั้นคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้สื่อมวลชนสามารถเข้าถึงงานต่าง ๆ ที่เหล่าผู้นำกำลังทำกันอยู่ และเหล่าผู้นำก็มีความสามารถที่จะตอบคำถามต่าง ๆ ได้ พร้อมกันนั้น เขาก็ยืนยันว่า ถึงแม้ในเวลาที่ออกเดินทางไปยังต่างประเทศ สหรัฐฯก็จะไม่ทอดทิ้งค่านิยมและอุดมการณ์ของตนเอาไว้ให้อยู่แต่ที่บ้าน

เขากล่าวต่อไว้ว่า ในการพูดจาหารือกับผู้นำจีนของเขา ก็พบเห็นทัศนะที่แตกต่างกันทำนองนี้

“เมื่อผมหยิบยกประเด็นปัญหาอย่างเช่นสิทธิมนุษยชนขึ้นมา ก็จะเกิดความตึงเครียดในบางระดับขึ้นมา ซึ่งบางทีอาจจะไม่เกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดี สี พบปะหารือกับผู้นำของประเทศอื่น ๆ”

อย่างไรก็ตาม โอบามามองเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณทางวิ่งของเครื่องบินคราวนี้แบบอารมณ์ดี โดยพูดล้อเลียนขำ ๆ ว่า คณะเดินทางที่มีขนาดใหญ่โตมหึมาของทำเนียบขาวนั้น สามารถที่จะขู่ขวัญชาติไหน ๆ ได้ทั้งสิ้น

“ส่วนหนึ่งของเรื่องก็คือเรามี “รอยเท้า” ที่ใหญ่โตกว่าของประเทศอื่น ๆ นักหนา” เขากล่าว “คณะของเราประกอบด้วยเครื่องบินเยอะแยะ, เฮลิคอปเตอร์เยอะแยะ, รถยนต์เยอะแยะ, ผู้คนเยอะแยะ ลองคิดดูเถอะ ถ้าคุณเป็นประเทศเจ้าบ้าน บางครั้งมันก็อาจจะเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมานิดหน่อยแหละ”
<i>ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จิบชาพูดคุยกันสบายๆ ณ ศาลาริมน้ำแห่งหนึ่ง ในสถานที่ต้อนรับแขกเมืองริมทะเลสาบซีหู ของเมืองหางโจว เมื่อคืนวันเสาร์ (3 ก.ย.) </i>

กำลังโหลดความคิดเห็น