เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานอ้างจากแหล่งข่าววงในว่า การเดินทางเยือนเม็กซิโกอย่างกะทันหันของโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับ แต่เป็นการเตรียมการมาดิบดี และทั้งทรัมป์และประธานาธิบดีเม็กซิโกได้ใช้เวลาโต้เถียงถึงกำแพงกั้นพรมแดนเจ้าปัญหาอย่างเผ็ดร้อน ก่อนยืนเคียงข้างออกแถลงการณ์คู่กัน ครั้งแรกที่ได้รับเกียรติเทียบเท่าประมุขแห่งรัฐ ท่ามกลางความกังวลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ถึงความไม่ปลอดภัยในการเดินทาง
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ถึงการเดินทางในช่วงนาทีสุดท้ายของตัวแทนผู้สมัครพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเดินทางเยือนเม็กซิโกและพบกับประธานาธิบดี เอ็นริเก เปญา นิเอโต ในวันพุธ (31) สร้างความปั่นป่วนให้แก่สื่อสหรัฐฯ ทุกสำนักที่ต่างส่งคนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในใกล้ชิดได้เปิดเผยกับ NBC NEWS ว่า สิ่งที่เห็นไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์อย่างกะทันหัน แต่เป็นการวางแผนล่วงหน้ามาอย่างดิบดีของทีมโดนัลด์ ทรัมป์ในความพยายามจะทำให้ทรัมป์ได้รับเทียบเชิญจากผู้นำเม็กซิโกเพื่อไปเยือนถึงที่
ทั้งนี้ เปญา นิเอโตได้แถลงว่าเขาได้ส่งคำเชิญไปยังทั้งทรัมป์ และฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต โดยพบว่าทรัมป์ได้เข้าพบกับผู้นำเม็กซิโกเป็นการส่วนตัวในกรุงเม็กซิโก ซิตีในวันพุธ (31 ส.ค.) ก่อนที่เขาจะขึ้นกล่าวปราศรัยใหญ่ในรัฐแอริโซนาในวันเดียวกันถึงการปฎิรูประบบการเข้าเมืองสหรัฐฯ
และความดีความชอบในการทำให้ทรัมป์ได้รับเชิญจากเปญญา นิเอโตสำเร็จต้องปรบมือให้กับลูกเขยของทรัมป์ จาเรด คุชเนอร์ (Jared Kushner) ที่ถือเป็นตัวตั้งตัวตีทำให้แผนการครั้งนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี แหล่งข่าวกล่าว และหลังจากที่ได้รับสัญญาณบวกออกมาจากฝั่งเม็กซิโก ทีมงานของโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งตารอการออกเทียบเชิญอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีเม็กซิโก และด้วยมารยาททางการทูตทำให้ทางเจ้าหน้าที่เม็กซิโกได้ส่งเทียบเชิญไปยังคลินตันจากฝั่งพรรคเดโมแครตด้วยเช่นกัน สื่อสหรัฐฯ รายงาน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยอมรับว่า ทรัมป์ได้แสดงความกังวลออกมาให้ปรากฏในการอาจถูกโจมตีทางการเมืองหากยอมเดินทางไปเข้าพบกับประธานาธิบดีเม็กซิโก เป็นเพราะตั้งแต่เริ่มต้นการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ได้ใช้จุดยืนแข็งกร้าว กล่าวโจมตีเม็กซิโก ประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนักหน่วง โดยกล่าวหาว่าเป็นตัวการส่งโจรและนักข่มขืนลอบข้ามเข้ามาภายในสหรัฐฯ และการประกาศสร้างกำแพงกั้นพรมแดนทางทิศใต้ อันถือเป็นสัญญาประชาคมที่ทรัมป์ได้ให้ไว้ในนโยบายหลักปฎิรูประบบคนเข้าเมืองสหรัฐฯของเขา
สื่อสหรัฐฯ รายงานต่อโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวคนเดิมที่ได้ระบุว่า ทรัมป์ยอมตอบตกลงในการเดินทางไปยังกรุงเม็กซิโก ซิตี ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่เขาจะสามารถขึ้นกล่าวปราศรัยว่าด้วยนโยบายการปฎิรูปคนเข้าเมืองสหรัฐฯตามแบบที่เขาต้องการ และต้องเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันเท่านั้น
แหล่งข่าวระบุมาอย่างชัดเจนว่า เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ตกลง และยอมรับอย่างเป็นที่สุดในผลประโยชน์ด้านการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อตัวเองหากเขาได้ยืนปรากฎเคียงข้างกับผู้นำระดับโลกเช่นประธานาธิบดีเม็กซิโกเอ็นริเก เปญา นิเอโต และมีการควบคุมตัวเองที่มากกว่าปกติ
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องการเสียจุดเด่นที่เขาได้สร้างโมเมนตัมทางการเมืองเอาไว้ในเรื่องนโยบายการเข้าเมืองสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าทรัมป์ได้ตกลงเพิ่มในมาตรการ 5 จุดใหญ่ที่เขาได้สรุปไว้โดยย่อในเม็กซิโก นั้นเป็นสิ่งที่ทีมงานของทรัมป์ได้วางแผนร่วมกันโดยได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษา เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
NBC NEWS ชี้ต่อว่า จากสิ่งดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การเดินทางไปเยือนเม็กซิโกของตัวแทนพรรครีพับลิกันถือเป็นความท้าทายที่มีความเสี่ยงทางการเมือง แต่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากครอบครัว โดยแหล่งข่าววงในชี้ว่า ทรัมป์ยอมตกลงเสี่ยงในเดิมพันครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในความเสี่ยงใหม่นั้นคือการถูกวิจารณ์ออกมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่เม็กซิโก หรือออกมาจากปากผู้นำเม็กซิโก เปญา นิเอโตเอง
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า และหลังจากที่การพบปะหารือระหว่างทรัมป์และเปญา นิเอโตจบลง และการปรากฏภาพการแถลงข่าวคู่ของทั้งสองปรากฏไปทั่วโลกสมใจเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ดูเหมือนจะออกมาปฏิเสธว่าระหว่างการสนทนานั้นตัวเขาและผู้นำเม็กซิโก ไม่มีการหารือเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนทางทิศใต้ของสหรัฐฯเกิดขึ้น
“ใครจะเป็นผู้จ่ายเงินสร้างกำแพง เราไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวหลังการหารือจบสิ้น และยังเสริมต่อว่า “เราทั้งคู่ไม่ได้หารือเกี่ยวกับกำแพง และไม่ได้หารือว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่าย นั่นเป็นสิ่งที่ต้องถกเถียงในวันหลังต่อไป” ทรัมป์ตอบคำถามกับนักข่าวในเม็กซิโก
แต่ทว่าสื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ดูเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น เพราะผู้นำเม็กซิโก คู่เจรจาหารือของทรัมป์ออกมาเปิดประเด็นและกล่าวอย่างตรงไปตรงมาผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ทั้งคู่ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับกำแพงเกิดขึ้น และยังรวมไปถึงในรายละเอียดของผู้ที่ต้องออกมารับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งทางเปญญา นิเอโตชี้ว่า ทางเม็กซิโกยืนยันมาตั้งแต่แรกแล้วว่า “ต้องไม่ใช่เม็กซิโก”
“นับตั้งแต่เริ่มต้นของการพบปะกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผมได้ประกาศอย่างตรงไปตรงมาว่า เม็กซิโกจะไม่มีวันจ่ายเงินสร้างกำแพงเด็ดขาด” ประธานาธิบดีเม็กซิโกแถลงผ่านทวิตเตอร์หลังจากพบกับทรัมป์เกิดขึ้นในวันพุธ (31 ส.ค.)
ผู้นำเม็กซิโกยังชี้แจงต่อว่า เขาและทรัมป์ได้พูดคุยเรื่องอื่นๆในหลากหลายประเด็นร่วมกันหลังจากนั้น
และในการแถลงผ่านทวิตเตอร์ของเปญา นิเอโต เขายังได้ตอกย้ำ “ความรับผิดชอบ” ต่อตัวเขาในความจำเป็นต้องปกป้องศักดิศรีของพลเมืองเม็กซิกันไว้ โดยชี้ว่า คำปราศรัยและการให้ความเห็นของทรัมป์ที่ผ่านมา “สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเม็กซิกันเป็นอย่างมาก” โดยผู้นำเม็กซิโกชี้ว่า “ประชาชนชาวเม็กซิกันรู้สึกเศร้าใจต่อคำกล่าวหาเหล่านั้นที่ได้เกิดขึ้น แต่ผมยังเชื่อมั่นว่า ความตั้งใจแรกเริ่มของทรัมป์คือการสรรสร้างความสัมพันธ์ที่จะให้ประโยชน์ต่อทั้งสองชาติให้เกิดประโยชน์สุขมากขึ้น”
CNN รายงานว่า ในการเดินทางมายังเม็กซิโกครั้งนี้ ถึงแม้อาจจะเป็นการเดินทางที่อาจต้องเสี่ยงต่อชีวิตที่แม้แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังส่งเสียงตำหนิถึงความกะทันหันไปยังเจ้าพ่อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสื่อสหรัฐฯ MSNBC ได้รายงานเบื้องต้นว่า เพื่อความปลอดภัย ทรัมป์จะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไม่ใช่ขบวนรถตามปกติ แต่พบว่าเขาได้รับเกียร์ติจากรัฐบาลเม็กซิโกในการจัดการแถลงข่าวเทียบเท่ากับระดับประธานาธิบดีผู้นำแห่งรัฐ
โดยในการแถลงร่วมนั้น เปญญา นิเอโต ได้ประกาศว่า ทั้งตัวเขาและทรัมป์ได้แลกเปลี่ยนการหารืออย่างสร้างสรรค์ “ที่ถึงจะไม่มีความเห็นร่วมในทุกประเด็นก็ตาม” และหลังจากนั้นผู้นำเม็กซิโกได้กล่าวปกป้องถึงการค้าระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐฯ และผลประโยชน์ที่ทั้งสองชาติได้ร่วมกันผ่านข้อตกลงการค้าเสรีนาฟตา (NAFTA) ซึ่งประเด็นนี้ถือเเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทรัมป์ได้โจมตีในการหาเสียงของเขาในสหรัฐฯ ซึ่งเปญญา นิเอโตชี้ว่า งานมากกว่า 6 ล้านตำแหน่งต้องพึ่งการส่งออกไปยังเม็กซิโก
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเม็กซิโกยังกล่าวเลยไปถึงวาทะทางการเมืองของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองเม็กซิกัน โดยกล่าวว่าพลเมืองชาวเม็กซิกันสมควรได้รับเกียร์ติในศักดิ์ศรีที่พวกเขามีไม่ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่ที่ใดก็ตาม
ในการออกแถลงการณ์คู่กับทรัมป์ เปญญา นิเอโตได้อ้างถึงประเด็นที่ผู้นำเม็กซิโกเห็นต่างจากเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน โดยกล่าวว่า นี่ถือเป็น “คำสั่ง” ในการต้องการให้หยุดการไหลของตำแหน่งงานจำนวนมหาศาลจากสหรัฐฯ โดยผ่านทางพรมแดนทางทิศใต้ของอเมริกา และการกล่าวหาว่า ข้อตกลงการค้าเสรีนาฟตานั้นได้ให้ประโยชน์กับเม็กซิโกมากกว่าอเมริกา และเปญญา นิเอโตยังได้ประกาศว่า เขายืนยันเคียงข้างในสิทธิของสหรัฐฯ ในการสร้างกำแพงในดินแดนของอเมริกาเพื่อหยุดการลักลอบเข้าเมืองของผู้อพยพ และกลุ่มลักลอบค้ายาเสพติด
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า ดูเหมือนเป็นครั้งแรกที่โดนัลด์ ทรัมป์แถลงการณ์ตอบโต้ โดยอ่านผ่านร่างที่ได้เตรียมไว้ ต่างจากการปราศรัยที่เขาเคยกระทำในสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการเทเลพรอมเตอร์ในการออกแถลงการณ์ โดยเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ในขณะยืนเคียงข้างผู้นำเม็กซิโก ทรัมป์ได้ประกาศเตือนไปถึงเรื่องนาฟตา โดยประกาศว่าข้อตกลงเขตการค้าเสรีนาฟตาต้องมีการเจรจาใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน และยังคงปักหมุดเรื่องว่าด้วยการหยุดการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ทรัมป์ไม่ได้ประกาศว่าเป็นชาวเม็กซิกัน แต่เขากล่าวโดยรวมว่าเป็นผู้อพยพจากอเมริกากลาง
และในแถลงการณ์คู่จากตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ยังตอกย้ำไปถึงประโยชน์การสร้างกำแพงควบคุมพรมแดนทิศใต้ของสหรัฐฯ ว่าจะให้ประโยชน์แก่ทั้งสองชาติในอนาคต และนอกจากนี้ในการประกาศเกี่ยวกับงานที่ยังต้องการให้คงอยู่นั้น ทรัมป์กล่าวโต้ว่า เขาไม่ได้หมายความเพียงแค่คงตำแหน่งงานในอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในเม็กซิโก และอเมริกากลาง ไม่ให้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังทวีปอื่น
