เอเจนซีส์ / MGR online – ตามีร์ ปาร์โด อดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ “มอสสาด” แห่งอิสราเอล ออกโรงสนับสนุนการ “ตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นเอกราช ” โดยระบุ นี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะผลักดันให้เกิดสันติภาพในตะวันออกกลางอย่างแท้จริง
ตามีร์ ปาร์โด อดีตผู้อำนวยการหน่วยสายลับมอสสาด กลายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายล่าสุดของอิสราเอลที่ประกาศจุดยืนสนับสนุนการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยเขาระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จำเป็นต้องเคารพในเอกราชและอธิปไตยของปาเลสไตน์ พร้อมย้ำว่า การแก้ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์จะสำเร็จลุล่วงและมีความยั่งยืนได้นั้นก็ต่อเมื่ออิสราเอล ต้องยอมรับแนวทางการแก้ปัญหาแบบ “รัฐต่อรัฐ” เท่านั้น
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ปาร์โด ซึ่งประกาศสละตำแหน่งหัวหน้าหน่วยสายลับมอสสาดตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีขึ้นหลังจากที่กระบวนการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์มีอันต้องหยุดนิ่งมานานเกินกว่า 2 ปีแล้ว โดยที่รัฐบาลอิสราเอลของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู เลือกที่จะหันไปสร้างพันธมิตรอันดีกับชาติอาหรับสายกลางอย่างอียิปต์และจอร์แดน ตลอดจนการสานสัมพันธ์กับบรรดานักการเมืองมุสลิมสุหนี่สายเลือดใหม่ในซาอุดีอาระเบียแทน
“ในเมื่อเราเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับปาเลสไตน์ แล้วทำไมเราถึงไม่หันหน้าคุยกับผู้มีอำนาจของฝ่ายปาเลสไตน์ ผมแปลกใจมากที่รัฐบาลของเราเลือกคุยกับอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเพียงผู้เกี่ยวข้องวงนอกเท่านั้นของความขัดแย้งนี้ ” อดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับมอสสาด ตั้งข้อสงสัย
ก่อนหน้านี้เมื่อ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และทางการปาเลสไตน์ ออกโรงประณามอย่างรุนแรง ต่อแผนการของรัฐบาลอิสราเอลในการเดินหน้าก่อสร้างที่พักอาศัยจำนวนอย่างน้อย 800 ยูนิต ให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิวในเขตพิพาทเยรูซาเลมตะวันออก-อัล กุดส์
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีสายแข็งอย่างเบนจามิน เนทันยาฮู เตรียมเดินหน้า สร้างที่พักอาศัยระหว่าง 800-1,200 ยูนิตให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิวในเขตพื้นที่ตอนใต้ ของดินแดนพิพาทเยรูซาเลมตะวันออก-อัล กุดส์ ซึ่งทางการปาเลสไตน์อ้างกรรมสิทธิ์มาโดยตลอดว่า พื้นที่นี้เป็นดินแดนในอธิปไตยของตน
แผนการขยายนิคมตั้งถิ่นฐานของชาวยิวเพิ่มเติม ในเยรูซาเลมตะวันออก-อัล กุดส์นี้ ถูกระบุว่าถูกริเริ่มโดยรัฐบาลอิสราเอลมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน
ด้าน นิก มลาเดนอฟ ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ด้านกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง ออกโรงประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอิสราเอล โดยระบุว่าการเดินหน้าขยายพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในดินแดนของปาเลสไตน์เป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้
ขณะที่ ซอเอ็บ เอเรกัต เลขาธิการใหญ่องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Palestine Liberation Organization : PLO) ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดเป็นการสะท้อนถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของประชาคมระหว่างประเทศ ในการหยุดยั้งขัดขวางอิสราเอลจากการรุกรานอธิปไตยของปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ บัน กี-มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ออกโรงในวันที่ 4 ก.ค. กล่าวประณามการตัดสินใจของรัฐบาลอิสราเอล ในการขยายการก่อสร้างนิคมตั้งถิ่น ฐานของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์และกรุงเยรูซาเลมเพิ่มเติม
สเตฟาน ดูยาร์ริช โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ เผยว่า บันซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้รู้สึกผิดหวังอย่างถึงที่สุด ต่อความเคลื่อนไหว ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ตัดสินใจประกาศขยายพื้นที่ ตั้งถิ่นฐานของชาวยิวดังกล่าวเพิ่มเติมอีก
“การตัดสินใจนี้จะก่อให้เกิดคำถามตามมามากมาย เกี่ยวกับความจริงใจของฝ่ายอิสราเอลในระยะยาวในการสร้างสันติภาพที่แท้จริงในตะวันออกกลาง ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งถูกสั่นคลอนจากถ้อยแถลงของบรรดารัฐมนตรี ในรัฐบาลอิสราเอลบางราย ที่ออกมาเรียกร้องให้ใช้กำลังทหารผนวกเขตเวสต์แบงก์เข้ากับอิสราเอล” โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวเสริม
ดูยาร์ริชยังระบุด้วยว่า เลขาธิการสหประชาชาติได้เน้นย้ำว่า การกระทำของรัฐบาลอิสราเอลในการขยายการก่อสร้างนิคมตั้งถิ่นฐาน ของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ และกรุงเยรูซาเลมเพิ่มเติมนั้น เป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักกฏหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และขอให้อิสราเอลยุติการดำเนินการในเรื่องนี้ทันทีเพื่อปกป้องสันติภาพอันเปราะบาง
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของบัน มีขึ้นภายหลังจากที่รัฐบาลอิสราเอลเห็นชอบอนุมัติแผนสร้างบ้านเรือนของชาวยิวเพิ่มเติมอีกราว 560 หลังที่นิคม มาอาเล อดูมิมในเขตเวสต์แบงก์ เช่นเดียวกับการสร้างบ้านใหม่อีก 240 หลังสำหรับชาวยิวในเยรูซาเลมตะวันออก
ขณะที่สื่ออิสราเอลหลายสำนักรายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยังมีแผนเดินหน้าสร้างบ้านเพิ่มอีก 600 หลังคาเรือนสำหรับชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับที่เขตเบอิต ซาฟาฟา ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนของปาเลสไตน์ในกรุงเยรูซาเลม