เอเอฟพี/MGRออนไลน์ – นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ทำเอาผู้คนพากันหวาดผวา เมื่อเขาเกิดเป็นลมไปชั่วขณะตอนที่กำลังกล่าวคำปราศรัยอันยาวเหยียดถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในคืนวันอาทิตย์ (21 ส.ค.) อย่างไรก็ตามเขาสามารถกลับมาพูดต่อภายหลังพักผ่อนเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง
บุตรชายวัย 64 ปีของ ลี กวนยู ผู้ก่อตั้งประเทศที่ล่วงลับไปแล้วผู้นี้ เป็นผู้ที่รอดชีวิตมาได้จากโรคมะเร็ง 2 หน โดยหนสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วนี้เอง ในคืนวันอาทิตย์ (21) หลังจากขึ้นกล่าวปราศรัยไปเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง จู่ๆ เขาก็หยุดพูด และต้องให้คนช่วยเหลือนำเขาลงมาจากเวที
เมื่อเขากลับมาอีกครั้งในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีหลังจากนั้น ผู้คนที่ยังเฝ้ารออยู่ในหอประชุมอันแน่นขนัดพากันลุกขึ้นยืนต้อนรับให้เกียรติ และบรรดาผู้ปรารถนาดีจำนวนเป็นพันๆ ต่างแสดงความโล่งอกโล่งใจบนสื่อสังคม
พวกผู้ช่วยพากันกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเขาอ่อนเพลียและมีอาการขาดน้ำ พร้อมกับปฏิเสธว่าเขาไม่ได้มีอาการสมองขาดเลือด
“ขอขอบคุณทุกท่านที่ยังรอผม ผมทำให้ทุกๆ ท่านต้องตื่นตกใจ” ลีซึ่งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2004 กล่าวกับผู้ฟัง
เขาบอกว่าเขาเป็นลมไปในระหว่างกล่าวปราศรัยยาวเหยียด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเนื่องในวาระการสถาปนาสาธารณรัฐสิงคโปร์ครบรอบ 51 ปี ทั้งนี้สิงคโปร์แยกตัวออกมาจากมาเลเซียในวันที่ 9 สิงหาคม 1965
“ผมคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่เคยมีคุณหมอมาดูแลผมพร้อมๆ กันเยอะแยะมากมายถึงขนาดนี้มาก่อนเลย ท่านเหล่านี้คิดว่าผมสบายดีแล้ว อย่างไรก็ตามผมก็จะต้องไปตรวจสุขภาพอย่างเต็มที่หลังจากงานนี้แล้ว”
ทางด้านนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ของมาเลเซีย ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “ได้ยินว่าคุณไม่ค่อยสบาย ผมหวังว่าคุณจะไม่เป็นอะไรมาก ขอให้หายดีโดยเร็ว” พร้อมทั้งแท็ก @leehsienloong
ลียืนอยู่เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ตอนที่เขาทำให้ผู้ฟังตะลึงงันเมื่อร่างกายของเขามีอาการกระตุก 2-3 ครั้ง และงอตัวเหนือแท่นปราศรัย ครั้นแล้วกล้องโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดออกอากาศสดก็ตัดภาพไปที่ผู้ชม
บรรดาผู้ชมนั่งอยู่ด้วยอาการช็อก แต่แล้วก็พากันปรบมือแสดงความยินดีเมื่อลีได้รับการช่วยเหลือพาลงไปจากเวที
ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการระบุว่า ลีถูกกระทบกระเทือนจากการที่ต้องยืนอยู่เป็นเวลานาน ท่ามกลางอากาศร้อน และมีอาการขาดน้ำ
“หัวใจของเขาเป็นปกติ และเขาไม่ได้มีอาการสมองขาดเลือด” คำแถลงฉบับนี้กล่าวต่อ
ลีเข้ารับการผ่าตัดเนื่องจากเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อปีที่แล้ว และหลังจากนั้นคณะแพทย์แถลงว่าเขาหายดีแล้ว ก่อนหน้านั้นในปี 1992 เขาก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองช่วงระยะเวลาสั้นๆ และรักษาหายขาดเช่นกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ (21) นับเป็นกรณีขวัญผวาด้านสุขภาพกรณีที่สองซึ่งเล่นงานรัฐบาลสิงคโปร์ ภายหลังจากรัฐมนตรีคลัง เฮง สวี เกียต ล้มลงจากอาการสมองขาดเลือดระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้
ภายหลังกลับมากล่าวปราศรัยต่อ ลีได้พูดเน้นย้ำความสำคัญของการทำให้การสืบทอดคณะผู้นำสามารถดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้งนี้ เขาเป็นผู้นำของพรรคกิจประชาชน (People's Action Party) ซึ่งปกครองสิงคโปร์เรื่อยมานับแต่ประเทศนี้แยกตัวจากมาเลเซียกลายเป็นชาติเอกราช โดยที่วาระดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค 5 ปีวาระล่าสุดของเขานั้นเพิ่งเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงความจำนงว่าจะส่งมอบอำนาจให้ทายาทคนต่อไปเมื่อถึงเวลาที่เขามีอายุ 70 ปี
“ทีมงานที่เป็นตัวแกนหลักเวลานี้ได้ตัวเข้าที่เข้าทางเกือบครบแล้ว” เขากล่าว
“เฮง สวี เกียต ทำให้เราตกใจกันมาก แย่ยิ่งกว่าที่ผมเพิ่งทำให้คุณตกใจในตอนนี้อีก ย่ำแย่กว่ามาก” เขาบอก
ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม อึ้ง เองเฮน ซึ่งก็เป็นแพทย์คนหนึ่งในบรรดาแพทย์ที่ช่วยเหลือพาตัวลีออกจากเวที โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า นายกรัฐมนตรีมี “อาการเป็นลม”
“ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แบบเดียวกับที่ทหารเป็นกันเมื่อต้องยืนอยู่ในแถวสวนสนามนานเกินไป” เขาบอก