เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกมาตอบโต้คำแถลงขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งอ้างว่าสงครามกวาดล้างยาเสพติดของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต อาจเข้าข่ายเป็น “อาชญากรรม” ตามกฎหมายสากล โดยชี้ว่ายูเอ็นกำลัง “กล่าวหาโดยไม่ยั้งคิด และไม่มีหลักฐานรองรับ”
ซัลวาดอร์ ปาเนโล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ดูเตอร์เต บอกกับเอเอฟพีวานนี้ (19 ส.ค.) ว่า รัฐบาลมะนิลาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง “ระบบศาลเตี้ย” ที่ทำให้ผู้ต้องสงสัยเป็นอาชญากรถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก พร้อมท้าให้ยูเอ็นส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบ
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นได้ออกมาเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (18) ว่า คำสั่งของประธานาธิบดี ดูเตอร์เต ที่ขอให้ตำรวจและประชาชนช่วยกันตามล่าผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติด “ถือเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและการฆ่า ซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ”
“การตัดสินเช่นนี้ในขณะที่คุณอยู่นิวยอร์ก หรือที่อื่นๆ ซึ่งห่างจากฟิลิปปินส์เป็นหมื่นๆ ไมล์ ถือเป็นการกระทำที่ไม่รู้จักยั้งคิด” ปาเนโล กล่าว
“คำแถลงเช่นนี้ไม่ถูกกาลเทศะและไร้หลักฐานรองรับ พวกเขาควรเดินทางมาดูให้เห็นกับตาว่าสถานการณ์จริงเป็นอย่างไร”
ดูเตอร์เต วัย 71 ปี ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งผู้นำแดนตากาล็อกอย่างถล่มทลายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ให้สัญญาว่าจะสังหารอาชญากรให้ตายตกตามกันนับหมื่นๆ ศพ เพื่อไม่ให้ฟิลิปปินส์กลายเป็น “รัฐยาเสพติด” ทั้งยังเสนอเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่สามารถจับเป็น หรือจับตายบุคคลเหล่านี้ได้
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดูเตอร์เต ยังส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปสังหารผู้ที่ต้องสงสัยเป็นอาชญากร รวมถึงพวกที่ใช้ยาเสพติด โดยบอกว่า “ถ้าท่านรู้จักใครที่ติดยาก็ขอให้ฆ่าได้เลย เพราะพ่อแม่เขาคงเจ็บปวดเกินกว่าจะเป็นคนลงมือฆ่าลูกตัวเอง”
ปาเนโล ระบุว่า ยูเอ็นไม่ควรยึดถือคำพูดของ ดูเตอร์เต เป็นเรื่องจริงจังนัก
“ท่านเพียงแต่ขอร้องให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐเท่านั้น” เขาบอก
ด้านโฆษกของผู้นำฟิลิปปินส์ก็อธิบายว่า ดูเตอร์เต มักจะใช้คำพูดเกินจริง (hyperbole) เช่นนี้อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากตำรวจว่าเจ้าหน้าที่ได้สังหารผู้ต้องสงสัยไปแล้วมากกว่า 600 คน นับตั้งแต่วันที่ ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่ง
สถานีโทรทัศน์ ABS-CBN ของฟิลิปปินส์สรุปตัวเลขผู้ที่ถูกสังหารไปแล้วกว่า 1,100 คน รวมถึงบางศพที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนน โดยมีข้อความ “ผมเป็นราชายาเสพติด” ประจานความชั่วเอาไว้ด้วย
ปาเนโล ยืนยันว่า ตำรวจจะกระทำวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยก็ต่อเมื่อมีเหตุให้ต้อง “ป้องกันตัว” เท่านั้น ส่วนรายอื่นๆ ก็เป็นการ “ฆ่าตัดตอน” โดยแก๊งค้ายาเสพติดที่เกรงว่าสมาชิกของตนจะยอมมอบตัว และร่วมมือกับทางการ
“คุณจะไปห้ามไม่ให้แก๊งพวกนี้ฆ่าตัดตอนกันเองได้อย่างไร? คุณจะไปปกป้องพวกเขาตลอดเวลาได้หรือ?” ปาเนโล ตั้งคำถามฝากไปถึงผู้เชี่ยวชาญยูเอ็น
องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกฟิลิปปินส์ ตลอดจนผู้นำคริสตจักรและสมาชิกรัฐสภาบางคน ได้แสดงความเป็นห่วงการล่าสังหารผู้คนโดยปราศจากการไต่สวน ขณะที่วุฒิสภาฟิลิปปินส์ก็เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบในสัปดาห์หน้าว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้นเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ระบุวานนี้ (19) ว่าตำรวจจะไม่หวั่นเกรงคำครหา และสงครามกับบรรดาผู้ค้ายาเสพติดนั้น "เพิ่งจะเริ่มต้น"