xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ เตือน “หญิงตั้งครรภ์” เลี่ยงเดินทางไป “ชายหาดไมอามี” หลังพบไวรัสซิการะบาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แผนที่แสดงอาณาเขตพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา บริเวณหาดไมอามี รัฐฟลอริดา
รอยเตอร์ - สาธารณสุขสหรัฐฯ ประกาศเตือนหญิงตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังชายหาดไมอามีในรัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) หลังมีคำยืนยันว่าพบการแพร่ระบาดของ “ไวรัสซิกา” ซึ่งมียุงเป็นพาหะในบริเวณดังกล่าว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ยังแนะให้สตรีมีครรภ์ที่กังวลมากเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในเขตเทศมณฑลไมอามี-เดด (Miami-Dade) ทั้งหมด

คำเตือนล่าสุดคาดว่าจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในรัฐฟลอริดาซึ่งมีมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเกือบครึ่งที่เดินทางมายังรัฐแห่งนี้มักจะเลือกพักผ่อนกันที่เขตเกรทเตอร์ไมอามี

คำเตือนจาก CDC ยังเพิ่มความกังวลว่าไวรัสร้ายแรงชนิดนี้อาจแพร่เข้าสู่แผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ในที่สุด

หน่วยงานสาธารณสุขได้ยืนยันแล้วว่า การติดเชื้อไวรัสซิกาขณะตั้งครรภ์เป็นสาเหตุทำให้ทารกเกิดมามีศีรษะเล็กผิดปกติ (microcephaly)

ริค สก็อตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบผู้ป่วย 5 รายที่คาดว่าได้รับเชื้อไวรัสซิกาจากบริเวณหาดไมอามี

“เราเชื่อว่าอาจจะมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ใหม่ บริเวณหาดไมอามี” เขากล่าว พร้อมยืนยันว่าทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในบริเวณดังกล่าวแล้ว

ก่อนหน้านี้ มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาที่ย่าน ไวน์วูด อาร์ตส์ ในเขตเทศมณฑลไมอามี-เดด ซึ่งถือเป็นว่าการแพร่ระบาด “พื้นที่แรก” บนแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่เชื่อว่า การระบาดของไวรัสยังคงจำกัดอยู่ในพื้นที่ 1.5 ตารางไมล์ ตั้งแต่ถนนหมายเลข 8 เรื่อยไปจนถึงหมายเลข 28 บริเวณย่าน เซาท์ บีช

CDC แนะนำให้ชายที่ทราบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสซิการอดูอาการ 6 เดือนก่อนพยายามมีบุตร เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้แก่ภรรยาและบุตรผ่านทางอสุจิ

ก่อนหน้านี้ แพทย์สังเกตพบว่าไวรัสซิกาจะแฝงตัวอยู่ในอสุจิของเพศชายได้นานถึง 93 วันนับตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ แต่รายงานล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสาร Eurosurveillence พบผู้ป่วย 2 รายที่ยังคงมีไวรัสแฝงอยู่ในอสุจิ หลังได้รับเชื้อมานานถึง 6 เดือน

เฮนรี ฮาร์เตเวลด์ต ผู้ก่อตั้งสถาบัน Atmophere Research Group ซึ่งให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยว ชี้ว่า การระบาดของไวรัสซิกาในภาคใต้ของรัฐฟลอริดาคราวนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่

“ต่อให้มีคนแค่ 1-2% ที่ตัดสินใจไม่ไปฟลอริดา ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อนหรือประกอบกิจธุระก็ตาม ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์” เขากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น