รอยเตอร์ - รัสเซียใช้ฐานทัพอากาศอิหร่านเพื่อทำการโจมตีทางอากาศในซีเรียเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันนี้ (17 ส.ค.) และไม่ยอมรับคำเตือนจากสหรัฐฯที่ว่า การร่วมมือกับเตหะรานอาจขัดต่อมติขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
กระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาวระบุว่า เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดเอสยู-24 ที่บินจากฐานทัพอากาศฮามาดันของอิหร่านได้โจมตีเป้าหมายกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในจังหวัดเดอีร์อัล-ซอร์ของซีเรีย และทำลายศูนย์บัญชาการ 2 แห่งรวมถึงสังหารกลุ่มติดอาวุธกว่า 150 คน
มอสโกใช้ฐานทัพอิหร่านเพื่อดำเนินการโจมตีทางอากาศในซีเรียครั้งแรกเมื่อวานนี้ (16) ทำให้การมีส่วนร่วมของพวกเขาในสงครามกลางเมืองนาน 5 ปีหยั่งลึกมากยิ่งขึ้นและสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ
วอชิงตันเรียกความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็น “โชคร้าย” และระบุเมื่อวานนี้ (16) ว่า พวกเขากำลังตรวจสอบว่าความเคลื่อนไหวของรัสเซียขัดต่อมติที่ 2231 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นซึ่งห้ามการจัดหา ขาย และขนย้ายเครื่องบินรบไปยังหรือให้กับอิหร่านหรือไม่
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวในวันนี้ (17) ว่า ไม่มีมูลเหตุที่จะบ่งชี้ว่ารัสเซียละเมิดมติดังกล่าว และระบุว่า พวกเขาไม่ได้กำลังจัดหาเครื่องบินให้กับอิหร่าน
“เครื่องบินเหล่านี้ถูกใช้โดยกองทัพอากาศรัสเซียด้วยความเห็นชอบของอิหร่านในฐานะส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายตามคำขอของผู้นำซีเรีย” ลาฟรอฟ บอกในการแถลงข่าวที่มอสโก หลังจากการพูดคุยกับ เมอร์เรย์ แมคคูลลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของนิวซีแลนด์
การใช้ฐานทัพอากาศอิหร่านของรัสเซียมีขึ้นท่ามกลางการสู้รบรุนแรงเพื่อแย่งชิงเมืองอะเลปโปของซีเรียซึ่งกลุ่มกบฏกำลังต่อสู้กับกองกำลังรัฐบาลซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากองทัพรัสเซีย และในขณะที่มอสโคและวอชิงตันกำลังพยายามทำข้อตกลงเกี่ยวกับซีเรียที่อาจได้เห็นพวกเขาร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
รัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ในขณะที่สหรัฐฯ เชื่อว่าผู้นำซีเรียต้องลงจากตำแหน่งเท่านั้นและกำลังสนับสนุนกบฏบางกลุ่มที่กำลังต่อสู้เพื่อโค่นล้มเขา