xs
xsm
sm
md
lg

“โดนัลด์ ทรัมป์” ชี้ตำรวจยิงคนดำที่มิลวอกี “มีเหตุอันชอบธรรม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน เอ่ยปากขอคะแนนเสียงจากชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอย่างจริงจังเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และคืนความสงบเรียบร้อยแก่บ้านเมือง ส่วนกรณีตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยผิวสีที่มิลวอกี รัฐวิสคอนซิน จนนำมาสู่เหตุจลาจลรุนแรงนั้น ตนเชื่อว่าตำรวจมี “เหตุอันชอบธรรม” ในการสังหาร

ระหว่างออกเดินสายหาเสียงใกล้ๆ กับเมืองมิลวอกีซึ่งเกิดเหตุจลาจลโดยชุมชนคนผิวสีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตี ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ว่าเป็นคน “ดันทุรัง” พร้อมให้สัญญาว่าจะปกป้องชาวอเมริกันกลุ่มน้อยไม่ให้ถูกผู้อพยพเข้ามาแย่งงานทำ

“ผมขอคะแนนเสียงจากชาวแอฟริกัน-อเมริกันทุกคนที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่ในสังคมของเรา ผู้ซึ่งต้องการความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่า”

“ตำแหน่งงาน ความปลอดภัย โอกาส ความเป็นธรรม และความเท่าเทียม... พวกเรารับไม่ได้กับความดันทุรังของ ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งพยายามโน้มน้าวหลอกล่อคนผิวสีโดยเห็นเป็นแค่คะแนนเสียงหนึ่ง ไม่ได้เป็นมนุษย์ปุถุชนที่สมควรจะมีอนาคตที่ดี พวกเขาแค่ต้องการแสวงหาประโยชน์เท่านั้น”

เหตุจลาจลตึงเครียดได้ปะทุขึ้นที่เมืองมิลวอกีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  เนื่องจากชุมชนคนผิวสีรู้สึกโกรธแค้นที่ ซิลวิลล์ สมิธ วัย 23 ปี ถูกตำรวจยิงสังหารเมื่อไม่กี่วันก่อน

ทางการระบุว่า สมิธถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจค้นเพราะแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย และถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเนื่องจากพกปืนผิดกฎหมาย และปฏิเสธที่จะทิ้งปืน

เดวิด คลาร์ก ผู้ปกครองเทศมณฑลมิลวอกีซึ่งเป็นคนผิวสี และเคยขึ้นเวทีปราศรัยในการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ออกมาวิจารณ์เหตุจลาจลที่เกิดขึ้น และยังเขียนบทความลงสื่อท้องถิ่น เดอะ ฮิลล์ ว่า “นี่คือการล่มสลายของระเบียบสังคม เมื่อผู้คนเอาวัฒนธรรมชนเผ่ามาใช้ และตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รอฟังข้อเท็จจริงเสียก่อน”

ทรัมป์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวฟ็อกซ์นิวส์ที่ศาลาว่าการเมืองมิลวอกี โดยกล่าวโทษรัฐบาล บารัค โอบามา ว่ามีนโยบายที่ไม่เป็นมิตรกับตำรวจ

“เขาไม่ทำดีต่อตำรวจสักเท่าไหร่ และตำรวจก็ไม่ค่อยชอบเขาเหมือนกัน” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ ได้เดินทางจากเมืองมิลวอกีซึ่งประชากร 40% เป็นคนผิวสี ออกไปยังย่านเวสต์เบนด์ (West Bend) ในรัฐวิสคอนซิน ชุมชนที่มีคนผิวขาวอยู่ถึง 95% ก่อนจะปราศรัยเรียกคะแนนจากคนผิวสีต่อหน้าผู้ฟังซึ่งเป็นคนขาวเกือบทั้งหมด

“การโหวตให้เธอ (คลินตัน) ก็เท่ากับโหวตให้ชาวอเมริกันอีกรุ่นหนึ่งต้องเผชิญปัญหาความยากจน อาชญากรรม และโอกาสที่สูญเสียไป... อาชญากรรมและความรุนแรงคือการทำร้ายคนยากคนจน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทรัมป์จะไม่มีวันยอม” ทรัมป์ กล่าว

ความรุนแรงที่ตำรวจกระทำต่อชาวอเมริกันผิวสีได้ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงบ่อยๆ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังจุดประเด็นวิพากษ์เรื่องเชื้อชาติ และการทำงานของตำรวจในสหรัฐฯ และนำมาสู่การเคลื่อนไหวของขบวนการ “Black Lives Matter” ซึ่งต่อสู้เพื่อสิทธิคนผิวสี

ทรัมป์ ระบุว่า ใครก็ตามที่วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ “ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุวุ่นวายในเมืองมิลวอกี และสถานที่อื่นๆ ในประเทศนี้ด้วย”

“สงครามกับตำรวจจะต้องยุติลงเสียที... การเปิดสงครามกับตำรวจก็เท่ากับเปิดสงครามกับพลเมืองผู้รักสันติ”

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพิธีกรฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอังคาร (16) ทรัมป์ระบุว่า การที่ตำรวจยิงสมิธนั้นมีเหตุผลอันชอบธรรม

“ปืนที่จ่อไปยังศีรษะของเขา (ตำรวจ) อาจจะถูกลั่นไกเมื่อไหร่ก็ได้... แล้วใครมีปัญหาอะไรหรือ? นี่คือรายงานที่ออกมา” ทรัมป์กล่าว

“มันอาจจะไม่จริงก็ได้... เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ประชาชนก็ไม่ควรที่จะก่อจลาจล”

กำลังโหลดความคิดเห็น