เอเอฟพี - การก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวในตุรกีเมื่อเดือนที่แล้วส่งผลให้ระดับความนิยมในตัวประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน พุ่งพรวดกว่าเดิมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดนับตั้งแต่ แอร์โดอัน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 2 ปีก่อน ผลสำรวจล่าสุดระบุวานนี้ (11 ส.ค.)
บริษัทวิจัย เมโทรโพล ในกรุงอังการาซึ่งสำรวจความคิดเห็นชาวตุรกี 1,275 คน ระหว่างวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่าคะแนนนิยมของแอร์โดอันในเวลานี้พุ่งสูงถึง 67.6% เพิ่มขึ้นจากโพลเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.กว่า 20 จุด
ความพยายามของทหารกลุ่มหนึ่งที่จะก่อรัฐประหารโค่นแอร์โดอัน เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ชาวตุรกีหันมารวมใจเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากปรากฏการณ์เช่นนี้ก็หนีไม่พ้นแอร์โดอัน
กลุ่มฝ่ายค้านในตุรกีไม่เห็นด้วยกับการก่อรัฐประหาร ขณะที่ประชาชนเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายการปฏิวัติที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ มาตั้งแต่ปี 1960
แอร์โดอัน เคยมีคะแนนนิยมพุ่งไปถึง 71.1% จากการสำรวจของเมโทรโพลเมื่อต้นปี 2012 ซึ่งขณะนั้นเขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3
เดือน ส.ค.ปี 2014 แอร์โดอันชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีตุรกีด้วยคะแนนเสียง 52% หลังจากนั้นคะแนนนิยมของเขาก็ต่ำกว่า 50% มาโดยตลอด จนกระทั่งเกิดความพยายามก่อรัฐประหารขึ้นในปีนี้
รองนายกรัฐมนตรีเมห์เม็ต ซิมเซ็ก ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น “สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวทางที่รัฐบาลใช้ตอบโต้กลุ่มที่ก่อรัฐประหาร”
ด้านนายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม ก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย โดยมีคะแนนนิยมขยับขึ้น 18 จุดไปอยู่ที่ 58%
แอร์โดอัน ได้ลงมือกวาดล้างผู้ที่มีส่วนพัวพันกับรัฐประหารในทุกๆ หน่วยงานของประเทศ โดยอ้างว่าคนเหล่านี้เป็นเหมือน “ไวรัส” ที่ถูกปล่อยมาจาก เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาชาวตุรกีในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของแอร์โดอัน และถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามโค่นล้มรัฐบาล
