เอเอฟพี - มูห์ยิดดิน ยัสซิน (Muhyiddin Yassin) อดีตผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ พรรคสหประชาชนมาเลย์ หรือ Parti Pribumi Bersatu Malaysia เพื่อต้องการท้าทายอำนาจของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจีฟ ราซัค ในเรื่องสินบนฉาว ซึ่งคาดว่า อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการพรรค
มูห์ยิดดิน ยัสซิน (Muhyiddin Yassin) อดีตผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ถูกนายกรัฐมนตรี นาจีฟ ราซัค ปลดออกจากตำแหน่งในปีที่ผ่านมา ได้ยื่นขอจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ในวันอังคาร (9 ส.ค.) ภายใต้ชื่อ Parti Pribumi Bersatu Malaysia หรือ พรรคสหประชาชนมาเลย์ และคาดว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการพรรค ผู้ช่วยของมูห์ยิดดิน
ทั้งนี้ มหาเธร์ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้นำมาเลเซียมายาวนานถึง 22 ปี ได้ประกาศลาออกจากพรรครัฐบาลอัมโนในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เคยวิจารณ์ว่า “พรรคการเมืองแห่งนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นองค์กรพิทักษ์นาจีฟไปเสียแล้ว “เราจะต่อสู้คอร์รัปชันและการใช้อำนาจไม่ชอบ” มูห์ยิดดิน กล่าว โดยเอเอฟพีชี้ว่า คาดว่า ชายผู้นี้จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานพรรค
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พรรคได้เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบระยะเวลาการได้รับอนุมัติในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ที่ผ่านมา อดีตผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้นี้ ได้ร่วมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจีฟ ราซัค ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับเงินจำนวนมหาศาลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ได้หายไปจากกองทุนของรัฐบาลมาเลเซียที่นาจีฟเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ในกระบวนการที่ซับซ้อนทางธุรกรรมการเงินต่างแดนที่ยังไม่เคยได้รับการอธิบายอย่างเปิดเผย
และข้อกล่าวหานี้ยังรวมไปถึงการเปิดเผยที่ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้นี้ได้รับเม็ดเงินจำนวน 681 ล้าน ที่ถูกฝากผ่านเข้ามาในบัญชีธนาคารส่วนตัวของนาจีฟในปี 2013 ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งตัว นาจีฟ และกองทุน 1MDB ของรัฐบาลมาเลเซียได้ปฏิเสธการกระทำผิดในทุกข้อกล่าวหา
ด้าน อิบราฮิม ซับเฟียน(Ibrahim Suffian) ผู้อำนวยการสำนักโพลอิสระ เมอร์เดกา เซนเตอร์ (Merdeka Centre) ได้ให้ความเห็นกับเอเอฟพี ว่า พรรคการเมืองใหม่ของมหาเธร์ที่กำลังยื่นขอจดทะเบียนใหม่นี้ สามารถสร้างแรงสมดุลในฝ่ายค้านเพื่อท้าทายรัฐบาลมาเลเซียได้ หากว่า พรรคการเมืองใหม่นี้สามารถทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้านมาเลเซียอื่นได้สำเร็จ
“พรรคการเมืองใหม่สามารถสร้างแรงสนับสนุนทางการเมืองในส่วนสวิงโหวต ที่พรรคฝ่ายค้านมาเลเซียทั้งหมดในเวลานี้ไม่มี” อิบราฮิมให้ความเห็น
โดยที่ผ่านมา ผู้นำการเมืองจากพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด อยู่ภายใต้การนำของมหาเธร์ ได้ร่วมกันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นาจีฟ ราซัค ลาออกในเดือนมีนาคมล่าสุด แต่กลับกลายเป็นว่า นาจีฟได้ทำการกระชับอำนาจ พร้อมกับขับบรรดาผู้วิจารณ์สังกัดพรรคการเมืองรัฐบาลมาเลเซีย ออกจากตำแหน่ง ควบคุมการทำคดีสอบสวน และทลายการรายงานเกี่ยวกับการเงินฉาว
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สถานะทางการเมืองของนาจีฟ ภายในพรรคอัมโนนั้นมั่นคง แต่ทว่าดูเหมือนพรรครัฐบาลแห่งนี้ที่ได้ปกครองมาเลเซียนับตั้งแต่การประกาศเอกราชในปี 1957 ได้คะแนนความนิยมลดลงในการเลือกตั้งปี 2013 ถึงแม้ว่าจะสามารถชนะที่นั่งส่วนใหญ่ได้สำเร็จก็ตาม เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งทั่วไปมาเลเซียครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2018