รอยเตอร์ - มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) แถลงแผนตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่จะร่วมมือกับพันธมิตรฝ่ายค้านในความพยายามโค่นล้มรัฐบาลผสมแนวร่วมแห่งชาติ(บีเอ็น) ซึ่งนำโดยพรรคมาลายูสามัคคีแห่งชาติ(อัมโน) ของนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมตรีผู้อื้อฉาว
มีข่าวลือแพร่สะพัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามหาเธร์ วัย 91 ปี นายกรัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของมาเลเซีย กำลังมีแผนตั้งพรรคการเมืองใหม่ ร่วมกับ 3 อดีตแกนนำของพรรคอัมโน ซึ่งปัจจุบันนายราซัคเป็นผู้นำพรรคอยู่
"เราที่ต่อต้านนายนาจิบ คงมิอาจบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะจนกว่าเราจะจับมือกันในฐานะพันธมิตร" มหาเธร์กล่าว พร้อมเผยว่าเขาจะไม่ลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2018 หรือเสนอตัวเป็นผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
มหาเธร์ วิพากษ์วิจารณ์นายนาจิบต่อแนวทางบริหารจัดการกองทุนรัฐ 1MDB อันอื้อฉาวและเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ มหาเธร์ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเมื่อถูกถามว่าอดีตแกนนำพรรคอัมโน 3 คน ได้แก่ มูห์ยิดดิน ยาสซิน, มูกริซ มหาเธร์ และซาฟี อับดาล จะเข้าร่วมในพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ โดยบอกแต่เพียงว่าเขาเปิดรับแนวคิดนี้
มหาเธร์ บอกว่าเขาและสหายยังไม่ตัดสินใจว่าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ จะเน้นเป็นตัวแทนชาวมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ที่เป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศหรือรวมทุกเชื้อชาติศาสนา และยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาสำหรับก่อตั้งพรรค
เมื่อเดือนที่แล้ว นายนาจิบแถลงว่าคณะกรรมการบริหารพรรคอัมโน ตัดสินใจขับนายมูห์ยิดดิน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน ณ ขณะนั้น และนายมูกริซ ลูกชายของนายมหาเธร์ อดีตมุขมนตรีรัฐเคดะห์ ออกจากพรรค
ทั้งสองเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายนาจิบอย่างหนัก และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งตามหลังคำกล่าวหาฉ้อฉลและบริหารจัดการกองทุน 1MDB ผิดพลาด ส่วน ซาฟี รองประธานพรรคอัมโนอีกคน ได้ลาออกจากพรรคในเวลาต่อมา เพื่อประท้วงกรณีที่เขาโดนพักงานระหว่างถูกสืบสวน โทษฐานที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการกองทุน 1MDB ของนายนาจิบเช่นกัน
ในเดือนกุมภาพันธ์ มหาเธร์ได้ลาออกจากพรรคอัมโน โดยระบุว่าพรรคแห่งนี้ถูกมองในฐานะผู้สนับสนุนคอรัปชันภายใต้การนำของนายนาจิบ
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าคณะสืบสวนนานาชาติเชื่อว่ามีเงินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกองทุน 1MDB
นายนาจิบ ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิดและในเดือนมกราคม อัยการสูงสุดได้เคลียร์นายนาจิบจากการกระทำผิดทางอาญาหรือคอรัปชันใดๆ โดยระบุว่าเงิน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบในเดือนมีนาคม 2013 ก่อนศึกเลือกตั้งทั้วไป เป็นของขวัญจากพระบรมวงศานุวงศ์ซาอุดีอาระเบียและได้ส่งคืนไปเกือบทั้งหมด