เอพี/เอเจนซีส์ - บริษัท เดลตาแอร์ไลน์ส อ้างปัญหาความโกลาหลในระบบเช็กอินทั่วโลกที่เกิดล่มเมื่อวานนี้ และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปไม่ต่ำกว่า 700 เที่ยว และอีกร่วม 2,600 เที่ยวบินต้องถูกเลื่อน ผู้โดยสารจำนวนมากต้องติดอยู่ภายในสนามบินทั่วโลกตั้งแต่นิวยอร์ก ลอนดอน ไปจนถึงนาริตะ ใช้พื้นสนามบินต่างที่นอนในช่วงข้ามคืน “เป็นเพราะระบบไฟฟ้าที่สำนักงานใหญ่เมืองแอตแลนตาขัดข้อง” แต่บริษัทไฟฟ้าจอร์เจียออกแถลงการณ์ล่าสุดโต้ไม่จริง อ้างเกิดจากอุปกรณ์ของเดลตาแอร์ไลน์สเอง ด้านซีอีโอใหญ่เดลตาแอร์ไลน์สปลอบใจผู้โดยสารด้วยคูปองมูลค่า 200 ดอลลาร์ และเสนอคืนเงินหากเกิดปัญหา 3 ชม.ไปแล้ว
เอพีรายงานวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า หลังจากที่เกิดปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท เดลตาแอร์ไลน์สในวันจันทร์ (8 ส.ค.) และทำให้ทางบริษัทต้องยกเลิกเที่ยวบิน รวมไปถึงเลื่อนเที่ยวบินจำนวนมากออกไป ล่าสุดทางบริษัทมีแผนที่จะทำการปลอบใจผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบด้วยการมอบคูปองสมนาคุณ และการคืนเงิน
โดยในวันนี้ทางเดลตาแอร์ไลน์สยังคงต้องแก้สถานการณ์ความยุ่งยากที่ได้เกิดขึ้นไปทั่วโลก ด้วยการพยายามหาที่นั่งบนเครื่องให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบกับระบบเช็กอินล่มในวันก่อนหน้านี้ ซึ่งถึงแม้ว่าระบบจะสามารถกลับมาใช้งานได้หลังจากนั้น แต่ทางบริษัทชี้ว่า ยังคงต้องช่วยเหลือผู้โดยสารที่ต้องตกค้างอยู่ที่สนามบิน”
เอพีรายงานว่า ทางบริษัทสายการบินได้โพสต์วิดีโอคลิปของซีอีโอ เดลตาแอร์ไลน์ส เอ็ด แบสเตียน (Ed Bastian) ที่ได้ออกมาขอโทษในเหตุที่เกิดขึ้น และในขณะเดียวกันได้เสนอคืนเงิน และคูปองสมนาคุณมูลค่า 200 ดอลลาร์ให้แก่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินที่ถูกยกเลิก หรือต้องถูกเลื่อนออกไปนานไม่ต่ำกว่า 3 ชม. แต่ทว่าทางเอพีชี้ว่า สำหรับผู้โดยสารสายการบินแห่งนี้ ปัญหาเริ่มเกิดตั้งแต่ผู้โดยสารไม่สามารถเช็กสถานะของเที่ยวบินของตนเองได้ และทำให้มีผู้โดยสารจำนวนมากต่างรู้ถึงปัญหาระบบขัดข้องก็ต่อเมื่อได้มาถึงสนามบินเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ NBC NEWS รายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือไปจากระบบเช็กอินของสายการบินที่ขัดข้อง รวมไปถึงไม่สามารถเช็กสถานะเที่ยวบินล่าสุดได้ เว็บไซต์ของบริษัทเดลต้าแอร์ไลน์ส และรวมไปถึงแอพของเดลต้าบนมือถือสมาร์ทโฟนไม่สามารถใช้การได้เช่นกันซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 02.38 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ และขัดข้องยาวนานร่วม 6 ชม.
และทำให้บริษัท เดลตาแอร์ไลน์สได้สั่งระงับการขึ้นบิน ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สายการบินเดลตาแอร์ไลน์สได้เขียนลงบนบอร์ดิงพาสว่า “ระบบของเดลตาแอร์ไลน์สล่มทุกที่” ซึ่งทางบริษัทสายการบินได้แจ้งให้ผู้โดยสารทราบผ่านทางทวิตเตอร์
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า ระบบสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งในเวลา 08.30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ที่มีการกลับให้บริการด้านการบินอีกครั้งด้วยสถานะที่จำกัดภายในเวลา 13.30 น. ด้วยตัวเลขเที่ยวบินราว 451 เที่ยวได้ถูกยกเลิก และมีเที่ยวบินน้อยกว่า 1,700 เที่ยวจากเที่ยวบินทั้งหมด 6,000 เที่ยวของเดลตาแอร์ไลน์สกลับมาให้บริการ รายงานจากแถลงการณ์ของเดลตาแอร์ไลน์สในวันจันทร์ (8 ส.ค.)
โดยเมื่อวานนี้ (8) ทางบริษัทสายการบินเดลตาได้ออกมาเตือนผู้โดยสารว่า การประกาศยกเลิกเที่ยวบิน และการดีเลย์เที่ยวบินครั้งใหญ่อาจคงต้องเกิดขึ้นต่อไป โดยในแถลงการณ์ของเดลตาแอร์ไลน์สชี้ว่า ปัญหาการขัดข้องของระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเนื่องมาจากปัญหาไฟฟ้าดับในสำนักงานใหญ่ของเดลตาแอร์ไลน์สในเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย
แต่ทว่าทางบริษัทไฟฟ้าจอร์เจียที่รับผิดชอบการจ่ายไฟฟ้าได้ออกมาโต้ผ่านแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า สิ่งที่ทางเดลตาแอร์ไลน์สอ้างนั้นไม่เป็นความจริง โดยในแถลงการณ์ของบริษัทจอร์เจีย พาวเวอร์ผ่านตัวแทนของทางบริษัท จอห์น คราฟต์ (John Kraft) ชี้ว่า ***เป็นเพราะชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าของระบบบริษัท เดลตาแอร์ไลน์สนั้นเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหา***
“ทางเจ้าหน้าที่ของเราได้ถูกส่งไปเพื่อแก้ปัญหาที่ไซต์งานในเช้านี้ ซึ่งทางเรายังคงทำงานร่วมกันกับทีมของบริษัท เดลตาแอร์ไลน์ส” คราฟต์กล่าว และเสริมต่อว่า “ไม่พบว่าลูกค้ารายอื่นของทางบริษัทจอร์เจีย เพาเวอร์ ได้รับผลกระทบจากความขัดข้องของระบบอุปกรณ์บริษัท เดลตาแอร์ไลน์ส”
แต่อย่างไรก็ตาม ด้านบริษัทสายการบินไม่ออกมาให้ความเห็นกับ NBC NEWSในเรื่องนี้โดยอ้างว่าอยู่ในระหว่างการสวบสวน แต่กระนั้นทางตัวแทนของเดลตาแอร์ไลน์สได้ยืนยันกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ทางบริษัทมีระบบแบ็กอัพ แต่ทว่าเนื่องมาจากเมื่อไฟฟ้าดับ ระบบที่สำคัญและอุปกรณ์เน็ตเวิร์กบางส่วนไม่ได้ต่อผ่านไปยังระบบแบ็กอัพฉุกเฉิน
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงข้ามคืนที่เกิดปัญหาผู้โดยสารจำนวนมากทั่วโลกต้องใช้พื้นสนามบินเป็นที่หลับนอน โดยทางบริษัท เดลตาแอร์ไลน์สประกาศให้ผู้โดยสารสามารถกลับมาจองเที่ยวบินใหม่ได้อีกครั้งอย่างช้าจนถึงวันศุกร์ (12 ส.ค.) เพื่อป้องกันความโกลาหล
ที่สนามบิน LAX ลอสแองเจลิส และ SFO ในเมืองซานฟรานซิสโก ผู้โดยสารในเที่ยวดึกคืนวันอาทิตย์(7 ส.ค)ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ JFK นิวยอร์ก และเมืองแอตแลนต้า ถูกนำตัวออกนอกเครื่องเพื่อกลับไปยังเทอร์มินอลผู้โดยสาร พร้อมทั้งได้รับการแจกจ่ายผ้าห่มและน้ำ
ส่วนในลาสเวกัส พบว่ามีผู้โดยสารบางส่วนนอนรอที่พื้นใกล้กับประตูเกตเพื่อเฝ้ารอความคืบหน้าของเที่ยวบิน ในขณะที่เมืองพิตต์สเบิร์กพบว่ามีคิวยาวออกมาจากเคาน์เตอร์ออกตั๋ว
นอกจากนี้ ผู้โดยสารของเดลตาแอร์ไลน์สที่ต้องติดค้างในท่าอากาศยานนานาชาติฟิอูมิซิโน( Fiumicino) ของกรุงโรมกล่าวให้ความเห็นกับสื่อ NBC NEWS ว่าต้องรอนานกว่า 1 ชม.เพื่อจะเช็กอิน
ส่วนอามันดา แจ็กสัน (Amanda Jackson) ผู้โดยสารเดลตาแอร์ไลน์สอีกรายได้ให้ความเห็นว่า เธอต้องใช้เวลานานร่วม 90 นาทีที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮีตโทรว์ อังกฤษ เพื่อทำการเช็กอินขึ้นเครื่องสำหรับเที่ยวบินไปยังซีแอตเติล และต่อไปยังอะแลสกา โดยแจ็คสันได้รายงานถึงสภาพการยืนรอต่อแถวที่บริเวณเคาน์เตอร์ของบริษัทสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ส ที่ต่างล้วนเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า และสำหรับท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะในกรุงโตเกียว มีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 1,000 คนต้องติดค้างอยู่ในสนามบินเนื่องมาจากการขัดข้องของระบบคอมพิวเตอร์บริษัทเดลต้าแอร์ไลน์ส
ซึ่ง NBC NEWS ชี้ว่า เจ้าหน้าที่เดลตาแอร์ไลน์สได้แจกจ่ายผ้าห่มและน้ำให้กับผู้โดยสารที่ติดค้าง เช่นเดียวกับที่อื่นๆทั่วโลก และพบว่าเที่ยวบินของเดลตาแอร์ไลน์สที่ถูกยกเลิกจากการบินขึ้นที่สนามบินในกรุงโตเกียวนั้นมี 2 เที่ยวบินไปยังโฮโนลูลู และอีกอย่างละเที่ยวไปยังเมืองนิวยอร์ก มินเนอาโปลีส ลอสแองเจลิส และแอตแลนตา
ทั้งนี้ พบว่าระบบของสายการบินเดลตาแอร์ไลน์สสามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง และเที่ยวบินสามารถขึ้นบินออกจากสนามบินนาริตะได้ในเช้าวันอังคาร (9 ส.ค.) แต่ทว่าโฆษกสายการบินเดลตาแอร์ไลน์สญี่ปุ่น ฮิโรโกะ โอคาดะ (Hiroko Okada)เตือนว่า คาดว่าจะยังคงมีความล่าช้าของเที่ยวบินเกิดขึ้น
หนึ่งในผู้โดยสารเดลตาแอร์ไลน์สที่ได้รับผลกระทบจากระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง เจฟฟ์ คิว์กลีย์ (Jeff Quigley) ผู้โดยสารชาวอเมริกันที่ใช้เวลา 2 ชม. นอนหลับในสนามบินนาริตะหลังจากเที่ยวบินช่วงบ่ายวันจันทร์จากนาริตะไปยังกรุงมะนิลาต้องถูกเลื่อนไปจนถึงเช้าวันถัดไปได้ออกมาให้ความเห็นว่า “ผมเดินทางด้วยเครื่องบิน 4-8 ครั้งต่อเดือนเห็นจะได้ แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเดินทางที่เลวร้ายมากที่สุด”
เอพีรายงานว่า ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเป็นฮับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสำหรับบริษัท เดลตาแอร์ไลน์ส และสายการบินสหรัฐฯ อีกบางส่วน ซึ่งมีเที่ยวบินเดินทางมาจากอเมริกาเพื่อมาต่อเครื่องจากที่สนามบินแห่งนี้ไปยังจุดต่างๆ ทั่วเอเชีย
