xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางบังกลาเทศเดินทางเข้ามะนิลา ตามหาเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกปล้นผ่านระบบ SWIFT

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - ภายในสัปดาห์นี้มีรายงานว่าตัวแทนจากธนาคารกลางบังกลาเทศจะเดินทางมายังกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ เพื่อติดตามจำนวนเงิน 63 ล้านดอลลาร์ที่ถูกกลุ่มโจรแฮกเกอร์สามารถเจาะผ่านระบบและออกคำสั่งเคลื่อนย้ายเงินผ่านระบบ SWIFT จากธนาคารนิวยอร์ก เฟดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีส่วนหนึ่งถูกสั่งให้ส่งเข้าธนาคารฟิลิปปินส์

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (2 ส.ค.) ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด 2 คนเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางบังกลาเทศออกเดินทางไปติดตามหาเงินที่สูญหายที่กรุงมะนิลาภายในสัปดาห์นี้

โดยแหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตัวแทนจากฝ่ายบังกลาเทศนั้นประกอบไปด้วย เดบาโพรซัด เด็บนาธ (Debaprosad Debnath) และอับดุล รับ (Abdul Rab) จากแผนก FIU หรือปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินประจำธนาคารกลางบังกลาเทศ อัจมาลุล ฮอสเซน( Ajmalul Hossain) ทนายความประจำธนาคารกลางบังกลาเทศ และเอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำฟิลิปปินส์ จอห์น โกเมส (John Gomes)

โดยคนทั้งหมดนี้มีกำหนดที่จะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามการฟอกเงินฟิลิปปินส์ (AMLC) กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ และจากธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ซึ่งเป็นปลายทางบัญชีซึ่งได้รับเงินที่ถูกปล้นจากธนาคารกลางบังกลาเทศ ก่อนที่จะถูกส่งต่อ และได้นำออกไปจากธนาคารหลังจากนั้น ซึ่งคาดว่าการหารือจะมีขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า รอยเตอร์ชี้

อย่างไรก็ตาม โฆษกธนาคารกลางบังกลาเทศ สุบันการ์ ซาฮา (Subhankar Saha) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าทางธนาคารกลางบังกลาเทศมีแนวคิดที่จะฟ้องธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC หรือไม่ แต่กล่าวให้ความเห็นเพียงว่าทางบังกลาเทศอยู่ในระหว่างดำเนินการติดตามเงินที่หายไปกลับคืน โดยผ่านการร่วมมือกับธนาคารกลางฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ ในเอกสารการสอบสวนภายในของธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ซึ่งระบุว่าสำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่บนถนนจูปิเตอร์ (Jupiter Street) เพิกเฉยต่อความผิดปกติของทางเจ้าหน้าที่สาขาของตัวเองเมื่อเม็ดเงินมหาศาลของธนาคารกลางบังกลาเทศถูกส่งเข้ามายังบัญชีของธนาคารฟิลิปปินส์แห่งนี้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และยังล่าช้าในการปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานใหญ่ที่ให้ทำการหยุดการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินก้อนนี้ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ แหล่งข่าวจากธากาให้ความเห็น

และแหล่งข่าวจากธากายังให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ต่อว่า ในเบื้องต้นธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ได้กล่าวโทษไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ปล่อยให้เงินที่เข้ามาถูกถอนออกไป ซึ่งการกล่าวโทษครั้งนี้ยังรวมไปถึงผู้จัดการสาขาถนนจูปิเตอร์ แต่อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวธากาชี้ว่า ทางบังกลาเทศเชื่อว่าความผิดพลาดนั้นน่าจะไม่หยุดอยู่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะทางบังกลาเทศเชื่อว่าธนาคารพาณิชย์สัญชาติฟิลิปปินส์แห่งนี้ยอมถูกตบตา และปล่อยให้เงินมูลค่ามหาศาลหลุดออกไปจากระบบอย่างง่ายดายเกินไป ซึ่งอ้างอิงจากเอกสารการตรวจสอบภายใน ทางบังกลาเทศเชื่อว่าธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC สมควรที่จะต้องออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่ได้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เอกสารที่ทางแหล่งข่าวธากากล่าวถึง รอยเตอร์รายงานว่า ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้ตรวจสอบ และพบว่ามีทั้งอีเมลติดต่อระหว่างผู้จัดการธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ซึ่งทำหน้าที่ในระหว่างที่เกิดเหตุการโจรกรรม นอกจากนี้ยังมีเมโมบันทึกภายใน และอีเมลที่ส่งไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC คนอื่นๆ ในช่วงระหว่างการสอบสวนภายใน

และจากเอกสารเหล่านี้ชี้ว่า ธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ได้ทำการออกคำสั่งห้ามทำธุรกรรมของบัญชีซึ่งเปิดยังสาขาถนนจูปิเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินโจรกรรมจากธนาคารกลางบังกลาเทศ เป็นเวลานาน 1 ชม. ในวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ หลังจากที่มีการตั้งข้อสงสัยจากเจ้าหน้าที่ธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC บางส่วนถึงแหล่งที่มาของเม็ดเงินที่ถูกส่งเข้ามาบัญชีเหล่านี้ และเงินจำนวนนี้จะเดินทางต่อไปยังที่ใด และการเคลื่อนย้ายเงินนั้นถูกกฎหมายหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตาม คำสั่งการระงับการทำธุรกิจถูกปลดลงภายในเวลา 19.30 น. หลังจากผู้จัดการสาขา ไมอา เดกีโต (Maia Deguito) ได้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าคำสั่งเคลื่อนย้ายเม็ดเงินเจ้าปัญหานั้นถูกต้องตามกฎหมาย อ้างอิงจากหนึ่งในเมโมบันทึกภายในของธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC โดยรอยเตอร์รายงานว่า เดกีโตถูกสั่งให้ออกจากงานหลังจากนั้นเมื่อต้นปีนี้ และเธอต้องอยู่ในระหว่างการถูกสอบสวนโดย AMLC

โดยในเอกสารฉบับนี้ยังชี้ต่อว่า ทางธนาคารฟิลิปปินส์ RCBC ได้ดำเนินการธุรกรรมอนุญาตถอนเงินจำนวนทั้งหมด 58.15 ล้านดอลลาร์ในช่วงระหว่าง 10.24-11.35 น. และมีจำนวนเงิน 15.2 ล้านที่ถูกถอนก่อนเวลา 11.19 น.


กำลังโหลดความคิดเห็น