เอเจนซีส์ – ฟาเซิล คาบีร์ (Fazle Kabir) อดีตปลัดกระทรวงการคลังบังกลาเทศได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศคนใหม่ 2 ช.ม หลังจากอาติอูร์ ราห์มาน (Atiur Rahman ) อดีตผู้ว่าการคนเก่ายื่นหนังสือลาออกให้กับนายกรัฐมนตรีหญิง ชีค ฮาซินา
BDNEWS24 สื่อข่าวออนไลน์บังกลาเทศรายงานวันนี้(16 มี.ค)ว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังบังกลาเทศ เอเอ็มเอ มูฮิธ (A.M.A Muhith) แถลงถึงผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศคนใหม่แทนที่ อาติอูร์ ราห์มาน (Atiur Rahman ) อดีตผู้ว่าการคนเก่าที่ยอมยื่นหนังสือลาออกหลังเกิดปัญหาทุนสำรองเงินตรต่างประเทศจำนวน 101 ล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์ก หรือ นิวยอร์ก เฟด โดนโจรไซเบอร์สามารถปล้นออกไปได้
ในการแถลงข่าวมูฮิธชี้ว่า ฟาเซิล คาบีร์ (Fazle Kabir) อดีตปลัดกระทรวงการคลังบังกลาเทศปี 2012 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริหารธนาคารที่มีรัฐบาลบังกลาเทศเป็นเจ้าของ โซนาลี แบงก์ (Sonali Bank) ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการคนใหม่
อย่างไรก็ตาม BDNEWS24 ชี้ว่า ธนาคารโซนาลีที่คาเบอร์นั่งบริหารอยู่ มีปัญหาฉาวโฉ่เช่นเดียว
เป็นที่น่าสนใจว่า คาเบอร์ได้รับตำแหน่งนี้ 2 ช.ม หลังจากที่ราห์มานได้ยอมยื่นใบลาออกให้กับนายกรัฐมนตรีหญิงบังกลาเทศ ชีค ฮาสินา
ซึ่งในการแถลงข่าวมูฮิธกล่าวว่า “ในขณะนี้ได้ตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศคนใหม่แล้ว คืออดีตปลัดกระทรวงการคลังบังกลาเทศ ฟาเซิล คาบีร์” และมูฮิธแถลงต่อว่า “การประกาศอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันนี้”
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีการคลังบังกลาเทศชี้แจงว่า ในขณะนี้คาบีร์เดินทางไปต่างประเทศ และจะมีกำหนดกลับในวันศุกร์(18 มี.ค)ที่จะถึงนี้
และในการแถลงข่าว มูฮิธยังได้ตอบคำถามถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสืบหาความจริงในคดีแฮกเกอร์ปล้นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศหรือไม่ แต่มูฮิธกลับตอบปัดว่า การสอบสวนได้เสร็จสิ้นแล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(15 มี.ค)รัฐมนตรีการคลังบังกลาเทศได้ประกาศจะเปิดแถลงข่าวกับสื่อ แต่ว่าการตั้งโต๊ะแถลงข่าวได้ยุติลงเมื่ออาติอูร์ ราห์มาน (Atiur Rahman ) อดีตผู้ว่าการคนเก่าที่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวในเดียวกัน ยอมยุติด้วยการยื่นหนังสือลาออกให้กับนายกรัฐมนตรีหญิงบังกลาเทศ ชีค ฮาซินา
โดยมูฮิธกล่าวว่า “ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดแถลงการณ์อีกต่อไป หลังจากมีแถลงการณ์ออกมาจากสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว”
ซึ่งก่อนหน้านี้ CNN Money สื่อสหรัฐฯ รายงานการโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ว่า โจรไซเบอร์สามารถโจรกรรมจากแอกเคาน์ของบังกลาเทศที่ฝากไว้กับธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์ก ที่เรียกว่า “นิวยอร์ก เฟด” โดยสามารถโจรกรรมไปได้ทั้งหมด 101 ล้านดอลลาร์ พบว่าจำนวน 81 ล้านดอลลาร์ถูกเคลื่อนย้ายไปยังฟิลิปปินส์ และอีก 21 ล้านดอลลาร์ ถูกโอนไปยังบัญชีปลายทางในศรีลังกา
โดยนิวยอร์ก เฟด ชี้ว่าคนร้ายได้เรียกเซิร์ฟเวอร์ออกมาจากบังกลาเทศโดยป้อนรหัสที่ถูกต้องทำให้สามารถเคลื่อนย้ายเงินออกจากบัญชีธนาคารกลางบังกลาเทศได้สำเร็จ
ซึ่งล่าสุดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบังกลาเทศ ธากาทริบูนรายงานในวันนี้(16 มี.ค)ว่า ธนาคารสัญชาติฟิลิปปินส์ ริซาล คอมเมอร์เชียล แบงกิง คอร์ป RCBC ที่มีบัญชีลูกค้าของธนาคารเป็นปลายทางรับเงินร่วม 81 ล้านดอลลาร์ ถูกเปิดเผยว่า ยอมให้มีการถอนเงินสดออกไปจากบัญชี ถึงแม้ว่าจะได้รับคำสั่งจากธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์ก (นิวยอร์ก เฟด)ให้ระงับการเคลื่อนย้ายเงินก้อนนี้ก็ตาม
โดยเทฟิสโต กินโกนา ( Teofisto Guingona) หัวหน้าคณะกรรมาธิการต่อต้านการคอรับชันประจำวุฒิสภาฟิลิปปินส์ ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ล่าสุด ได้มีการเคลื่อนย้ายเงินก้อน 81 ล้านดอลลาร์เข้ามายังธนาคาร RCBC
แต่ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นวันหยุดธนาคาร RCBC ธนาคารแห่งนี้ได้รับคำสั่ง “หยุดการจ่ายเงิน” จากนิวยอร์ก เฟดในเวลา 17.00 น. ซึ่งสว.กินโกนาได้ตั้งคำถามในการเข้าให้ปากคำของ ลอเรนโซ ทาน ( Lorenzo Tan) ประธานบริหารธนาคาร RCBC ว่า “คำสั่งหยุดการจ่ายได้รับโดยธนาคารของคุณในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2016” และกินโกนากล่าวต่อไปว่า “แต่ในเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นวันทำการวันแรกของธนาคาร คุณควรที่จะได้เห็นคำสั่งหยุดการจ่ายเงิน แต่ดูเหมือนว่าคำสั่งนี้จะไม่ได้รับการปฎิบัติตาม เพราะเงินจำนวนทั้งหมดได้ถูกถอนออกไปจากบัญชีแล้ว”
และกินโกนายังชี้ต่อว่า คำสั่งการหยุดจ่ายเงินยังถูกส่งออกมาจากธนาคารกลางบังกลาเทศถึงธนาคาร RCBCของฟิลิปปินส์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 19.45 น. เช่นกัน ซึ่งถือเป็นเวลาที่ธนาคารได้เลิกการทำงานแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ทานปฎิเสธไม่ยอมตอบคำถามของกินโกนา โดยอ้างกฎหมายคุ้มครองความลับสถาบันการเงินฟิลิปปินส์