รบ.เวเนฯ ร้องสภาเลือกตั้งสั่งแบนองค์กรฝ่ายค้านฐาน “ฉ้อโกง” หวังสกัดประชามติถอด “มาดูโร”

เอเอฟพี - รัฐบาลเวเนซุเอลาเรียกร้องวานนี้ (26 ก.ค.) ให้สภาการเลือกตั้งแห่งชาติ (CNE) สั่งแบนองค์กรของฝ่ายค้าน ซึ่งกำลังผลักดันการทำประชามติถอดถอนประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวหาว่าฝ่ายค้านมีพฤติกรรม “ฉ้อโกงอย่างร้ายแรง”

รัฐบาลมาดูโรได้เริ่มกลยุทธ์แก้แค้นในวันเดียวกับที่ฝ่ายค้านหวังว่าจะได้ “ไฟเขียว” เริ่มทำประชามติถอดถอนผู้นำรายนี้ ทำให้สถานการณ์การเมืองในเวเนซุเอลายิ่งตึงเครียดหนัก

ฮอร์เก โรดริเกวซ ผู้ช่วยของมาดูโรซึ่งมีหน้าที่ติดตามกระบวนการทำประชามติ ระบุว่า “เราได้ขอให้ CNE เพิกถอนทะเบียนของกลุ่ม Democratic Unity Roundtable (MUD) ด้วยข้อหาพัวพันการฉ้อโกงเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ”

โรดริเกวซอ้างว่า รายชื่อผู้สนับสนุน 1.8 ล้านคนที่ฝ่ายค้านส่งให้แก่ CNE เมื่อเดือน พ.ค. เพื่อร้องขอให้มีการทำประชามติถอดถอนประธานาธิบดี มีการใส่ชื่อพลเมืองที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมถึงนักโทษ และผู้เยาว์ ปะปนเข้าไปด้วยหลายแสนชื่อ

ฝ่ายค้านเวเนซุเอลาออกมาปฏิเสธข้อหานี้ พร้อมกล่าวหามาดูโรว่าพยายามเตะถ่วงกระบวนการทำประชามติ

วันที่ 26 ก.ค.เป็นวันสุดท้ายที่ CNE จะต้องตัดสินว่าฝ่ายค้านรวบรวมรายชื่อพลเมืองผู้มีสิทธิออกเสียงอย่างถูกต้องครบ 200,000 ชื่อหรือไม่ ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต้นสำหรับการร้องขอทำประชามติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (26) CNE ได้ออกมาแถลงว่าจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันจันทร์ และไม่ระบุชัดเจนว่าจะประกาศคำตัดสินได้เมื่อใด

“สภาการเลือกตั้งแห่งชาติจะไม่ยอมให้ฝ่ายใดมากดดันการทำงาน” ถ้อยแถลงจาก CNE ระบุ

ฝ่ายต่อต้านมาดูโรพยายามเร่งวันเร่งคืนให้การทำประชามติเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 10 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายสำหรับการจัดเลือกตั้งใหม่ หากช้าไปกว่านั้น หรือเท่ากับว่ามาดูโรจะบริหารประเทศครบ 4 ปีจากวาระทั้งหมด 6 ปี ผลประชามติถอดถอนจะเพียงส่งผลให้มาดูโรต้องส่งมอบอำนาจให้แก่รองประธานาธิบดีซึ่งเขาก็เลือกขึ้นมาเองกับมือ และนั่นหมายความว่าพรรคสังคมนิยมก็จะยังครองอำนาจต่อไปได้อีก

เวเนซุเอลาซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กำลังเผชิญวิกฤตรุมเร้าหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยๆ การปล้นชิงทรัพย์สิน และภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ซึ่งประธานาธิบดีก็กล่าวโทษว่าพวกชนชั้นสูงร่ำรวยจงใจทำ “สงครามเศรษฐกิจ” เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาล

เมื่อวานนี้ (26) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานเวเนซุเอลาได้ใช้อำนาจตามประกาศภาวะฉุกเฉิน สั่งให้บริษัทเอกชนทุกแห่งต้องส่งพนักงานมาทำงานให้กับโครงการเกษตรกรรมของรัฐบาล เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนอาหาร