รอยเตอร์ - ไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนียทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่พักอาศัยในวันจันทร์ (25 ก.ค.) ขณะที่เปลวเพลิงเผาผลาญผ่านหุบเขาและเชิงเขาทางเหนือของลอสแองเจลิสเป็นวันที่สี่แล้ว
นักดับเพลิงเกือบ 3,000 คนกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่ได้เรียกกันว่า “แซนด์ไฟร์” ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ป่าตามแนวตะเข็บทางตะวันตกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติแองเจลส์ ไปแล้วอย่างน้อย 130 ตารางกิโลเมตร
จากข้อมูลของหน่วยดับเพลิงพบว่า เฉพาะวันอาทิตย์ (24 ก.ค.) วันเดียว ไฟป่าได้ขยายวงเพิ่มเติม 27,500 ไร่ และจนถึงวันจันทร์ (25 ก.ค.) สามารถควบคุมเพลิงได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์
อาคารบ้านเรือนอย่างน้อย 18 หลังถูกทำลายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อถูกพบศพในรถยนต์ที่ถูกเพลิงเผาผลาญ จอดอยู่ในถนนส่วนบุคคลของบ้านหลังหนึ่งในช่วงเย็นวันเสาร์ (23 ก.ค.)
เดิมทีเจ้าหน้าที่มีแผนอนุญาตให้ชาวบ้านบางส่วนกลับคืนสู่ชุมชน แต่มีอันต้องยกเลิกไปในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (24 ก.ค.) เนื่องจากกระแสลมเปลี่ยนทิศที่ดูแล้วอาจเป็นอันตราย
โจอี มาร์สัน ผู้ตรวจสอบของหน่วยดับเพลิงลอสแองเจลิส เคาน์ตี เผยในตอนเช้าวันจันทร์ (25 ก.ค.) ว่าคำสั่งอพยพขยายวงครอบคลุมบ้านเรือน 10,000 หลัง คิดเป็นจำนวนชาวบ้านราวๆ 20,000 ถึง 30,000 คน พร้อมระบุว่ามีอาคารพาณิยช์ราว 200 หลังตั้งอยู่บนเส้นทางที่ล่อแหลม
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันอาทิตย์ (24 ก.ค.) จำนวนผู้อพยพอยู่ที่ 1,500 คน
ไฟป่าครั้งนี้กำลังคุกคามกลุ่มชุมชนขนาดเล็กๆ ใกล้เมืองซานตาคลาลิตา ห่างจากนครลอสแองเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 65 กิโลเมตร โดยมันส่งควันและเขม่าดำครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอ่างเก็บน้ำลอสแองเจลิสถูกปกคลุมด้วยแผ่นเถ้าสีขาวบางๆ จากไฟป่าในวันเสาร์ (23 ก.ค.) และวันอาทิตย์ (24 ก.ค.)
พุ่มไม้หนาและแห้งระหว่าง 5 ปีแห่งความแห้งแล้ง กลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีแก่เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นจากสภาพอากาศร้อนจัดและความชื้นต่ำสุดขั้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยคาดหมายว่าสภาพอากาศชื้นและลมค่อนข้างนิ่งจะช่วยทีมดับเพลิงได้มากในวันจันทร์ (25 ก.ค.)
เวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุของไฟป่าครั้งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในไฟป่าช่วงฤดูร้อนหลายๆ ครั้งที่เกิดขึ้นในรัฐที่เผชิญภัยแล้งมานาน
