รอยเตอร์ - ไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วบีบให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องหลบหนีออกจากบ้านของตนเองในเชิงเขาแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครลอสแอนเจลิสและทำให้พื้นที่ราว 80.94 ตารางกิโลเมตรกลายเป็นสีดำในช่วงเย็นวันเสาร์ (23 ก.ค.) รวมทั้งกำลังคุกคามบ้านหลายหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าว
ไฟป่าครั้งนี้ที่เรียกกันว่า “แซนด์ไฟร์” ปะทุขึ้นไม่นานหลังเวลาบ่าย 2 ของวันศุกร์ (22 ก.ค.) และลุกลามอย่างรวดเร็วใกล้เมืองซานต้าคลาลิตา ห่างจากนครลอสแอนเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 65 กิโลเมตร ทำให้คนราว 300 คนต้องอพยพ ในขณะที่ความมืดปกคลุมภูมิภาคแคลิฟอร์เนียใต้ในวันเสาร์ (23) ไฟป่าดังกล่าวถูกยับยั้งไปได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และควันดำหนาลอยเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของลอสแอนเจลิส
ผู้อยู่อาศัยท้องถิ่นโพสต์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นพระอาทิตย์ถูกบดบังด้วยกลุ่มควันดังกล่าวและหน่วยบริหารจัดการคุณภาพอากาศชายฝั่งทางใต้ออกคำเตือนถึงสภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในภูมิภาคนี้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดถูกทำลายนับตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ (23) เจ้าหน้าที่กล่าว และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
“เนื่องจากนี่เป็นปีที่ 5 ของภัยแล้งต่อเนื่อง เราจึงมีพืชพรรณที่เหี่ยวแห้งจำนวนมาก” หัวหน้าหน่วยดับเพลิงของลอสแองเจลิส ดาริล ออสบี บอกในการแถลงข่าว
“บางส่วนของเชื้อเพลิงเหล่านี้ พวกมันไม่ได้เผาไหม้มาเป็นเวลานานหลายสิบปี ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามกินบริเวณ 44.517 ตารางกิโลเมตรเพียงชั่วข้ามคืน”
นักดับเพลิงราว 900 คนกำลังพยายามสู้กับเพลิงดังกล่าวท่ามกลางอุณหภูมิสูงกว่า 41 องศาเซลเซียส โดยมีความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ 28 ลำ และเครื่องบิน 8 ลำ
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารจัดการด้านไฟระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังประสบความยากลำบากในภูมิประเทศที่มีความขรุขระอย่างมาก ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามปกป้องบ้านเรือนในชุมชนลิตเติลทูจันกาและหยุดไฟที่กำลังลุกลามผ่านพุ่มไม้น้อยใหญ่ต่างๆ
ศูนย์พักพิงผู้อพยพถูกจัดตั้งขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่นี้และถนนราว 10 เส้นถูกปิดเนื่องจากไฟป่า ถนนหลายเส้นในและนอกชุมชนเชิงเขาถูกปิด
ไฟป่าครั้งนี้เป็นหนึ่งหนึ่งในไฟป่าช่วงฤดูร้อนหลายๆ ครั้งที่เกิดขึ้นในรัฐที่เผชิญภัยแล้งแห่งนี้ซึ่งหญ้าที่แห้งและพื้นที่พุ่มไม้ตลอดจนอุณหภูมิที่สูงช่วยเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟ