เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - พบร่างไร้วิญญาณของผู้อพยพทางเรือจำนวน 41 รายถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดเมืองซาบราธาของลิเบีย ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ (24 ก.ค.)
รายงานข่าวซึ่งอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นในเมืองซาบราธาของลิเบียระบุว่า ศพของผู้อพยพทั้ง 41 รายที่คาดว่าจะเสียชีวิตในระหว่างความพยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อมุ่งหน้าไปแสวงหา “ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า” ในยุโรปได้ถูกคลื่นซัดเข้ามายังชายหาดของเมืองนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางตะวันตกตั้งแต่วันเสาร์ (23 ก.ค.)
หลังพบศพ เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นร่วมกับเหล่าอาสาสมัครได้ช่วยกันนำร่างไร้วิญญาณทั้ง 41 ร่างที่คาดว่าน่าจะจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วราว 5-6 วัน ไปไว้ยังสถานที่เก็บศพประจำเมืองเพื่อรอการตรวจสอบดีเอ็นเอ และเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ ก่อนจะมีการประกอบพิธีฝังศพในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อระบุว่า โดยปกติมักจะมีการพบศพของผู้อพยพทางเรือถูกคลื่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซัดเข้ามายังชายหาดแถบนี้ของลิเบียวันละ 1-2 ศพอยู่แล้ว แต่การพบถึง 41 ศพภายในวันเดียวถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดาสมาชิกขบวนการค้ามนุษย์มักลักลอบนำพาผู้อพยพจากภูมิภาคตะวันออกกลางและประเทศยากจนในทวีปแอฟริกาลงเรือซึ่งมีสภาพไม่สู้ดีนัก ก่อนจะพาผู้อพยพที่หนีภัยสงครามและความยากจนเหล่านี้เสี่ยงชีวิตฝ่าคลื่นลมมรสุมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อมุ่งหน้าสู่ทวีปยุโรปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนกลางปีที่น่านน้ำแห่งนี้จะมีคลื่นลมสงบราบเรียบที่สุด
ก่อนหน้านี้ทางสหภาพยุโรป (อียู) เคยออกรายงานที่ระบุว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่ที่ลงเรือออกจากชายฝั่งทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาเหล่านี้มักจะมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เกาะต่างๆ ของอิตาลี และกรีซ ที่อยู่ห่างออกไปราว 300 กิโลเมตร โดยมีน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกั้นกลาง
ทั้งนี้ ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ออกมาระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมามีผู้อพยพทางเรือจำนวนมากกว่า 10,000 รายที่สูญหายหรือเสียชีวิตระหว่างความพยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อมุ่งหน้าสู่ยุโรป