xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : เปลี่ยนแล้วจ้า “รูเพิร์ต เมอร์ด็อก” ขึ้นนั่งบริหารทีวีเน็ตเวิร์กอเมริกา “ฟ็อกซ์นิวส์” หลัง “โรเจอร์ เอลส์” ลาออกเซ่นคุกคามทางเพศนักข่าวสาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - โรเจอร์ เอลส์ (Roger Ailes) ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอทีวีเน็ตเวิร์กอเมริกา “ฟ็อกซ์นิวส์” ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากตกเป็นคู่กรณีคดีคุกคามทางเพศอดีตนักข่าวสาว ทำให้ “รูเพิร์ต เมอร์ด็อก” เจ้าพ่อสื่อโลกก้าวเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานและผู้บริหารชั่วคราวให้แก่ฟ็อกซ์นิวส์

RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดี 21 ก.ค.) ว่า การลาออกเมื่อวานนี้ของโรเจอร์ เอลส์ (Roger Ailes) ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอทีวีเน็ตเวิร์กอเมริกา “ฟ็อกซ์นิวส์” มีขึ้น หลังจากที่เอลส์ในวันที่ 7 ก.คถูกอดีตนักข่าวสาวฟ็อกนิวส์ เกรตเชน คาร์ลสัน (Gretchen Carlson) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง รวมไปถึงยังมีการพบว่า นักข่าวสาวคนอื่นๆ ของทางสถานีตกเป็นเหยื่อคุกคามทางเพศจากอดีตนายใหญ่วัย 76 ปีคนนี้ด้วย

ในส่วนของผู้ที่จะเข้ามานั่งในตำแหน่งบริหารคนใหม่ สื่อรัสเซียชี้ว่า คือ เจ้าพ่อกุมสื่อโลกตะวันตก รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นประธานบริหารให้กับบริษัท ทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ บริษัทแม่ของฟ็อกนิวส์ โดย RT ชี้ว่า เมอร์ด็อกจะทำหน้าที่ซีอีโอรักษาการให้แก่ฟ็อกซ์นิวส์ และฟ็อกซ์ บิสิเนส เน็ตเวิร์ก ในระหว่างนี้

โดยในแถลงการณ์ของเจ้าพ่อสื่อโลก เมอร์ด็อกกล่าวว่า “โรเจอร์ เอลส์ เป็นผู้ได้ทุ่มเทอย่างมหาศาลต่อบริษัท และต่ออเมริกา” และได้เสริมต่อว่า “โรเจอร์มีวิสัยทัศน์ที่ร่วมกับผมทั้งในแง่ของความเป็นเอกเทศและยิ่งใหญ่ของสื่อคอร์โปเรชัน และได้ทำหน้าที่บริหารอย่างชาญฉลาดมายาวนานตลอด 20 ปีที่ผ่านมา”

อย่างไรก็ตาม หลังจากตกเป็นหัวข้อข่าวลือมาตลอดในช่วงสัปดาห์นี้ถึงความกดดันจากตระกูลเมอร์ด็อกที่มีต่อตัวเอลส์ และต้องการให้เขาลาออกหลังจากที่คาร์ลสันได้ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ คดีคุกคามทางเพศ แต่ทว่าเอลส์กลับปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม RT ชี้ว่า ดูเหมือนทีมกฎหมาย บริษัท ทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ เป็นผู้แต่งตั้งสำหรับสอบสวนภายในกลับไม่คิดเช่นนั้น โดยผลการสอบสวนออกมาว่า โรเจอร์ เอลส์ไม่สามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปได้

ในแถลงการณ์ของอดีตซีอีโอฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งเว็บไซต์ เดอะดรูดจ์ รีพอร์ต (Drudge Report) เป็นสื่อแรกได้รายงานการแถลงของเอลส์ ระบุว่า ในคำแถลงของเจ้าพ่อฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่า “ผมถือในความภาคภูมิใจที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความสำเร็จของบรรดาผู้ประกาศข่าวหญิงของทางสถานีจนไปถึงจุดสูงสุดทั้งในส่วนของฝ่ายบริหารและในส่วนเบื้องหน้าผ่านกล้องโทรทัศน์” เอลส์กล่าวผ่านแถลงการณ์ข้อเขียน และเสริมต่อว่า “ซึ่งการที่ฟ็อกซ์นิวส์สามารถเป็นอันดับ 1 ของสื่อเคเบิลทีวีสหรัฐฯ ได้อย่างภาคภูมิเป็นผลจากการที่ผ่านมาผมได้ใช้วิสัยทัศน์อย่างถี่ถ้วนในการผลักดันบรรดานักข่าวแถวหน้าทั้งหญิงและชายสู่หน้าจอโทรทัศน์ และบรรดาเหยี่ยวข่าวเหล่านั้นได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยม”

ในจดหมายแถลงการณ์ของโรเจอร์ เอลส์ ยังตอกย้ำต่อว่า “ในความทุ่มเทมาตลอด 20 ปีให้กับทางฟ็อกซ์นิวส์ ผมจะไม่ยอมให้ปัจจุบันของผมต้องเป็นอุปสรรคในการทำงานแต่ละวันเพื่อทำให้แน่ใจว่าทั้งฟ็อกซ์นิวส์และฟ็อกซ์ บิสิเนส เน็ตเวิร์ก ยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจมีเดียคอร์เปอร์เรชันอเมริกาต่อไป” นอกจากนี้ในตอนท้ายของแถลงการณ์เอลส์ยังกล่าวว่า “ผมมีความเชื่อมั่นว่า ทุกคนในฟ็อกซ์นิวส์ และฟ็อกซ์ บิสิเนส เน็ตเวิร์ก จะยังคงทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพตามปกติต่อไป และทางสถานีจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต”

RT รายงานว่า และในช่วงท้ายของแถลงการณ์ อดีตซีอีโอฟ็อกซ์นิวส์ ยังได้ประกาศว่า เขาหวังว่าจะยังคงความสัมพันธ์กับตระกูลเมอร์ด็อกต่อไปในฐานะที่ปรึกษาของทีวีเน็ตเวิร์ก

และมีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับการลาออกของโรเจอร์ เอลส์ ซึ่งก่อนหน้านี้เดลิเมล สื่ออังกฤษได้รายงานว่า ตัวแทนชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันผู้นี้ต้องการติดต่อเอลส์ให้เข้ามาทำหน้าที่ “ผู้จัดการหาเสียงคนใหม่” ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้

โดยรอยเตอร์ได้รายงานว่า ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) ว่า “โรเจอร์ เอลส์เพิ่งโทรศัพท์มาหา เขาเป็นคนดี และได้รับปากกับผมว่า โดนัลด์ ทรัมป์จะยังได้รับการปฏิบัติที่ดีจากฟ็อกซ์นิวส์เช่นเดิม คำพูดของโรเจอร์ยังน่าฟังเหมือนเดิม”

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีข่าวว่ารูเพิร์ต เมอร์ด็อก วัย 85 ปีจะเข้ามานั่งขัดตาทัพในตำแหน่งบริหารสถานีที่ถือเป็นเสมือนกับเป็นกระดูกสันหลังของการเมืองฝั่งพรรครีพับลิกันชั่วคราว แต่ทว่า เมอร์ริล บราวน์ (Merrill Brown) อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ปีกลิเบอร์รัลทีวีเน็ตเวิร์ก MSNBC ได้ให้ความคิดเห็นว่า จะเป็นการดีมากหากทางฟ็อกซ์นิวสจะสามารถเฟ้นหาผู้บริหารคนใหม่ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ซึ่งในช่วงไม่กี่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ผู้จัดมือฉมังประจำฟ็อกซ์นิวส์ บิล โอ ไรล์ลี (Bill O’Reilly) จะได้รับการพิจารณาให้ถูกผลักดันขึ้นสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารต่อจากเอลส์ ซึ่งสัญญาข้อตกลงระหว่างเขาและทางฟ็อกซ์นิวส์จะยังคงมีต่อไปจนถึงปี 2017 เช่นเดียวกับข้อตกลงกับผู้ประกาศสาวสุดมั่น เมแกน เคลลี (Megyn Kelly) ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้ให้ข้อมูลว่า เธอตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศจากเอลส์ด้วยเช่นกัน

แต่ทว่าสำหรับแม่เหล็กของทางสถานีคนอื่นๆ เช่น เกรทา แวน ซัสเตอเรน (Greta Van Susteren) และฮวน ฮันนิตี (Sean Hannity) ในสัญญาข้อตกลงกับทางฟ็อกซ์นิวส์ ได้มีการระบุเงื่อนไขว่าคนทั้งคู่สามารถยุติการทำงานกับทางสถานีฟ็อกซ์นิวส์ได้ก่อนกำหนด หากว่าโรเจอร์ เอลส์ออกจากการทำหน้าที่บริหาร รอยเตอร์รายงาน







กำลังโหลดความคิดเห็น