หายไปไม่กี่วัน “เดอะ ซัน” กลับมาโชว์เต้าสาวหน้า 3 อีกแล้ว

เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของอังกฤษ “เดอะ ซัน” กลับมาตีพิมพ์รูปสาวเปลือยอกในหน้า 3 อีกครั้งในวันนี้ (22 ม.ค.) หลังจากที่หยุดธรรมเนียมดั้งเดิมที่ทำกันมากว่า 44 ปี ไปได้เพียงแค่ไม่กี่วัน

หลังจากที่หนังสือพิมพ์ “เดอะ ไทม์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจสื่อในมือ “รูเพิร์ต เมอร์ด็อก” เช่นเดียวกับ “เดอะ ซัน” ได้รายงานเมื่อวันอังคาร (20 ม.ค.) ว่าภาพสาวเปลือยอกในหน้า 3 ได้ถูกยกเลิกแล้ว จนสร้างความยินดีให้แก่กลุ่มสิทธิสตรี

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในฉบับวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) รูปสาวเปลือยอกในหน้า 3 ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับข้อความชี้แจง

“เนื่องจากมีสื่อหลายเจ้ารายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงหลังๆ เราจึงอยากทำให้กระจ่างด้วยหน้า 3 ของฉบับนี้ นี่คือรูปของนิโคล สาววัย 22 ปี จากบอร์นมัธ เราอยากจะขออภัยต่อผู้อ่าน แทนสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ ที่ใช้เวลาในการพูดและเขียนถึงเราช่วงสองวันที่แล้ว” คำบรรยายใต้ภาพระบุ

นอกจากในหนังสือพิมพ์ สื่ออังกฤษรายนี้ยังให้ผู้อ่านสามารถเข้าไปชมรูปสาวเปลือยอกได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งทางหัวหน้าพีอาร์ของแท็บลอยด์ฉบับนี้ได้บอกกับเอเอฟพีว่า “เดอะ ซัน ยังไม่เคยพูดเลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับหน้า 3”

ด้านการรณรงค์ “ไม่เอาหน้า 3” ที่พากันยินดีว่าเป็นชัยชนะของพลังประชาชน หลังภาพสาวเปลือยอกหายไปจากหน้า 3 ของ “เดอะ ซัน” ช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ก็มีการประกาศว่าจะกลับมาต่อต้านอีกครั้ง

ภาพสาวเปลือยอกในหน้า 3 ของ “เดอะ ซัน” ได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี 1970 โดยมีสาวเยอรมันวัย 20 ปี สเตฟานี ราห์น มาประเดิมเป็น “สาวหน้า 3” รายแรก นับตั้งแต่นั้นมาภาพสาวเปลือยอกก็กลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับแท็บลอยด์ฉบับนี้มาอย่างยาวนาน

หน้า 3 ของ “เดอะ ซัน” คือจุดเริ่มต้นอาชีพนางแบบของ “ซาแมนธา ฟอกส์” ในช่วงยุคปี 1980 รวมถึง “เคธี ไพรซ์” ในช่วงยุคปี 1990 แต่ถึงกระนั้นก็ยังโดนวิจารณ์เรื่อยมาว่าเป็นการเหยียดเพศ

มีการรณรงค์เรียกร้องให้แท็บลอยด์รายนี้หยุดตีพิมพ์ภาพสาวเปลือยอก ถึงขนาดที่สามารถรวบรวมรายชื่อผู้ที่เห็นด้วยกับการรณรงค์ได้ถึง 217,000 รายชื่อ แต่ถึงกระนั้น ผลสำรวจความคิดเห็นของ “ยู กอฟ” ในปี 2012 กลับพบว่า มีผู้ที่อยากให้ภาพสาวเปลือยอกยังอยู่แบบเดิมถึง 61 เปอร์เซ็นต์

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า “เดอะ ซัน” กำลังโยนหินถามทาง ด้วยการไม่ตีพิมพ์ภาพสาวเปลือยอกในหน้า 3 จนทำให้สื่อหลายรายพากันเชื่อว่าการตีพิมพ์ภาพปลุกใจเสือป่าที่ทำกันมา 44 ปี คงจะจบลงแล้ว

โดยในฉบับวันจันทร์ มีรูปวับๆ แวมๆ ของนางแบบสาว โรซี ฮันธิงตัน ไวท์ลีย์ ในชุดชั้นในมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ส่วนฉบับวันอังคารตอนแรกมีภาพสองสาวใส่ชุดว่ายน้ำบิกินีกำลังวิ่งอยู่ที่ชายหาด แต่ต่อมาก็ถูกเปลี่ยนเป็น “แอน เคิร์กไบรด์” ที่เสียชีวิต ขณะที่ฉบับวันพุธ มีโฆษณาในหน้า 2 และหน้า 3

อย่างไรก็ตาม ในฉบับวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) ภาพสาวเปลือยอกก็กลับคืนมาสู่หน้า 3 ของ “เดอะ ซัน” พร้อมกับข้อความชี้แจง ทำให้กลุ่มสิทธิสตรีต้องผิดหวังและย้ำว่าจะเดินหน้าต่อต้านกันต่ออีกครั้ง แต่ก็ยังมีบางรายที่ยินดีกับการกลับมาของภาพสาวเปลือยอกในหน้า 3

โจดี มาร์ช อดีตสาวหน้า 3 ที่เคยเปลือยอกลงหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน ได้แสดงความเห็นว่า เธอรู้สึกยินดีที่หน้า 3 กลับมาตีพิมพ์ภาพสาวเปลือยอกอีกครั้ง

“ฉันชอบการเป็นสาวหน้า 3 เป็นงานที่เงินดี ฉันรู้สึกว่ามีอำนาจในการควบคุมสิ่งต่างๆ การบอกสาวๆ ว่าอย่าเปลือยอกลงหน้า 3 ไม่ใช่วิถีแห่งการเรียกร้องสิทธิสตรี เพราะผู้หญิงควรจะทำได้ทุกอย่างที่พวกเธออยากทำ” มาร์ชระบุไว้ในทวิตเตอร์