xs
xsm
sm
md
lg

ศาลญี่ปุ่นตัดสิน “จำคุก 4 ปี” หนุ่มเกาหลีใต้วางระเบิด “ศาลเจ้ายาสุกุนิ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จอน ชาง-ฮัน หนุ่มเกาหลีใต้ วัย 28 ปี ซึ่งแอบนำระเบิดท่อไปวางและจุดชนวนภายในศาลเจ้ายาสุกุนิ ใจกลางกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ปี 2015
เอเอฟพี - ศาลแขวงกรุงโตเกียวมีคำพิพากษาวันนี้ (19 ก.ค.) ให้จำคุก 4 ปีชายชาวเกาหลีใต้ ซึ่งนำระเบิดท่อ (pipe bomb) ที่ผลิตขึ้นเองไปวางและจุดชนวนระเบิดภายในศาลเจ้ายาสุกุนิ เมื่อปลายปีที่แล้ว

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นภายในศาลเจ้ายาสุกุนิ และมีผู้พบเห็นควันลอยออกมาจากห้องน้ำสาธารณะ ทว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยในวันดังกล่าวมีการจัดเทศกาลเก็บเกี่ยวข้าว หรือ “นิอินาเมะไซ” ซึ่งทำให้มีผู้คนเดินทางมายังศาลเจ้ายาสุกุนิมากกว่าทุกวัน

หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หลังตำรวจตรวจพบเศษแบตเตอรี่ สายไฟ และท่อบรรจุดินปืนอยู่ภายในห้องน้ำ

จอน ชาง-ฮัน วัย 28 ปี ยอมรับว่าตนได้แอบเข้าไปภายในศาลเจ้ายาสุกุนิและจุดชนวนระเบิด คดีนี้นับว่าสะท้อนถึงความบาดหมางทางประวัติศาสตร์จากการที่จักรวรรดิญี่ปุ่นเคยเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงปี 1910-1945

“ศาลได้พิพากษาให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา” โฆษกศาลแขวงกรุงโตเกียวให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเอเอฟพี และไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีก

สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า เดิมทีอัยการญี่ปุ่นได้เสนอให้ศาลพิพากษาจำคุก จอน เป็นเวลา 5 ปี โดยอ้างว่าพฤติการณ์ของหนุ่มโสมขาวผู้นี้เข้าขาย “ก่อการร้าย”

ศาลเจ้ายาสุกุนิในกรุงโตเกียว นอกจากจะเป็นสถานที่สักการะดวงวิญญาณชาวญี่ปุ่นหลายล้านคนที่เสียชีวิตในสงครามต่างๆ แล้ว ยังเป็นที่เก็บป้ายวิญญาณนักการเมืองและนายพลระดับสูงของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกนานาชาติตราหน้าเป็น “อาชญากรสงคราม”

บรรดารัฐมนตรีและ ส.ส.ญี่ปุ่นเดินทางไปสักการะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นประจำซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างหนักจากจีนและเกาหลีใต้ที่มองว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แทนความป่าเถื่อนของจักรวรรดิญี่ปุ่นในอดีต

คาซุโนริ คาเรอิ ผู้พิพากษาศาลแขวงโตเกียว ระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นถือว่า “อันตรายอย่างยิ่ง และเป็นการกระทำมุ่งร้าย”

หลังก่อเหตุ จอนได้หลบหนีออกจากญี่ปุ่น แต่มาถูกตำรวจจับกุมหลังเดินทางกลับมายังแดนอาทิตย์อุทัยอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ธ.ค. โดยมีรายงานว่าเขาได้นำดินปืนหนัก 2 กิโลกรัมติดตัวมาด้วย

ผู้พิพากษาคาเรอิชี้ว่า เมื่อความพยายามครั้งแรกไม่บรรลุผลตามเป้า จอนจึงวางแผนก่อเหตุอีกครั้ง และได้ขนดินปืนจำนวนมากกลับเข้ามายังญี่ปุ่น

มารดาของจอนให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวยอนฮัปในเกาหลีใต้ โดยระบุว่า “ศาลลงโทษหนักเกินกว่าที่เราคาดไว้” และบุตรชายอาจจะยื่นอุทธรณ์

“นี่เป็นคำพิพากษาที่ผิดปกติ แต่เรายังมีหวังอยู่ เพราะกระบวนการยุติธรรมยังไม่ถึงที่สุด... เรายังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ 2 ส.ค.”

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีของจอน แต่ยืนยันว่าได้ให้ความช่วยเหลือด้านกงสุลอย่างเต็มที่ต่อพลเมืองรายนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น