เผยมือซุ่มยิงตร.ที่ลุยเซียนา วางแผนล่วงหน้าก่อนลงมือสังหาร-เคยบ่นคนดำถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรม

รอยเตอร์ - อดีตนาวิกโยธินอเมริกันผิวดำที่ก่อเหตุซุ่มยิงตำรวจในเมืองแบตันรูช เมืองเอกของรัฐลุยเซียนาเมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) วางแผนโจมตีล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวันก่อนลงมือลอบสังหาร จากการเปิดเผยของตำรวจในวันจันทร์(16ก.ค.) ขณะที่สหรัฐฯต้องหัวหมุนกับเหตุยิงนองเลือดล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับตำรวจและชาวอเมริกันเชื่อสายแอฟริกัน

ข้อมูลของตำรวจที่เปิดแถลงข่าวในเมืองแบตันรูซ ระบุว่านอกจากมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นายแล้ว ยังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย โดยหนึ่งในนั้นซึ่งถูกยิงเข้าที่ศีรษะและช่องท้อง อาการเป็นตายเท่ากัน

เหตุซุ่มยิงครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองแบตันรูซ ซึ่งเป็นจุดที่มีการชุมนุมประท้วงหลายครั้ง ต่อต้านการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ ตามหลังนาย อัลตัน สเตอร์ลิง ชายผิวดำถูกตำรวจยิงตายเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม และฟิแลนโด แคสติล วัย 32 ปี ใกล้เมืองเซนต์ปอล รัฐมินนิโซตา ในวันถัดมา

"ไม่สงสัยเลยว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นเป้าหมายโดยเจตนาและถูกลอบสังหาร" ไมก์ เอ็ดมอนซัน ผู้กำกับการตำรวจรัฐลุยเซียนาแถลง "มันเป็นการลงมือที่ผ่านการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีต่อเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ปกป้องชุมชนแห่งนี้ในทุกๆวัน"

เอ็ดมอนซัน บอกว่าจากหลักฐานพยานส่วนใหญ่คือวิดีโอของเหตุซุ่มยิง พบปืน 3 กระบอกในที่เกิดเหตุ ขณะที่หลักฐานอื่นๆอย่างเช่นร่องรอยของมือปืนบนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ทราบเกี่ยวกับคนร้ายมากขึ้น และระบุมือปืน "เข้ามาอยู่ในชุมชนของเราเป็นเวลาหลายวันแล้ว"

มือปืนซึ่งถูกระบุชื่อว่า เกวิน ลอง วัย 29 ปี จากแคนซัส ซิตี มลรัฐมิสซูรี เคยเป็นนาวิกโยธินนาน 5 ปี ในนั้นรวมถึงการถูกส่งเข้าประจำการในสงครามอิรักเมื่อปี 2008 ทั้งนี้ ลอง ซึ่งสวมชุดสีดำและติดอาวุธปืนไรเฟิล ถูกวิสามัญฆาตกรรมในตอนเช้าวันอาทิตย์(17ก.ค.) ระหว่างดวลปืนกับตำรวจ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา ลองโพสต์คลิปบนยูทูบจากเมืองดัลลัสที่เขาไปร่วมประท้วง โดยบ่นว่า ผิดหวังกับการปฏิบัติต่อคนดำอย่างไม่เป็นธรรม และว่า มีเพียงความรุนแรงและความกดดันทางการเงินเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ความตึงเครียดทางผิวสีพุ่งสูงขึ้นในสหรัฐฯ ตามหลังเกิดกระแสความไม่พอใจที่ตำรวจสังหารชายผิวดำ 2 คนในสถานการณ์ที่คลุมเครือเมื่อต้นเดือนนี้ ได้แก่ อัลตัน สเตอร์ลิง วัย 37 ปี ในแบตันรูช เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา และฟิแลนโด แคสติล วัย 32 ปี ใกล้เมืองเซนต์ปอล รัฐมินนิโซตา ในวันถัดมา

จากนั้นในวันที่ 7 เดือนนี้ ก็มีมือปืนผิวดำผู้หนึ่งได้ซุ่มยิงตำรวจในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 5 นาย ระหว่างเกิดเหตุประท้วงกรณีการเสียชีวิตของคนผิวดำ 2 คนดังกล่าว นอกจากนั้น สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจยังจับกุมผู้ประท้วงกว่า 100 คนที่มีส่วนร่วมในการต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ภายใต้การนำของกลุ่ม “แบล็ก ไลฟ์ส แมตเทอร์”

ตามประวัติราชการพบว่าผู้ต้องสงสัยเคยต้องการเปลี่ยนชื่อจาก เกวิน อูตีน ลอง เป็น คอสโม อูซาร์ เซเตเพนรา ในเดือนพฤษภาคม 2015 แต่เจ้าหน้าที่ศาลเผยว่าเขายังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนชื่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้เขายังอ้างตัวเป็นสมาชิก “วอชิตอว์ เนชั่น” หรือกลุ่มชาวแอฟริกันอเมริกันที่อ้างว่า เป็นชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐฯ

ตำรวจเผยว่าหน่วยสวาทถูกส่งมายังจุดเกิดเหตุ และสมาชิกคนหนึ่งของทีม ยิงปลิดชีพนายลอง จากระยะไกลกว่า 100 หลา ขณะที่นายอำเภออีสต์แบตันรูซ ระบุว่าเขาไม่สงสัยเลยว่านายลอง จะสังหารเจ้าหน้าที่มากกว่านี้หากไม่ถูกวิสามัญเสียก่อน

แหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่า มีผู้โทรแจ้ง 911 เพราะอาจต้องการหลอกล่อตำรวจแบตันรูชไปติดกับ

เอ็ดมอนสันสำทับว่า เจ้าหน้าที่หลายคนเดินทางไปยังทสถานที่ซึ่งได้รับแจ้งว่า มีชายชุดดำสวมหน้ากากพร้อมปืนไรเฟิลจู่โจม ที่ด้านหลังร้านแห่งหนึ่งก่อนเวลา 21.00 น. วันอาทิตย์ (17) ไม่นาน ซึ่งเมื่อไปถึงกลับถูกซุ่มตี

การต่อสู้ระหว่างผู้พิทักษ์กฎหมายกับมือปืนจบลงในเวลาเพียง 8 นาที และเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตมี 1 คนที่เป็นคนดำ

สถานการณ์นี้ยังโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทั่วอเมริกา โดยเฉพาะที่เมืองคลีฟแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรครีพับลิกันในสัปดาห์นี้ และเมืองฟิลาเดลเฟีย อันเป็นที่ประชุมของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์หน้า โดยคาดกันว่า ที่ประชุมใหญ่รีพับลิกัน จะมีมติรับรอง โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะเดโมแครตจะรับรอง ฮิลลารี คลินตัน ลงสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้อย่างเป็นทางการ