เอเจนซีส์ - ผู้จัดการรถบรรทุกให้เช่าจากบริษัท Via Location เปิดเผยล่าสุดว่า โมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ บูห์แลล (Mohamed Lahouaiej Bouhlel) มือก่อการร้ายสองสัญชาติได้ขอเช่ารถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทางบริษัทมี พร้อมกล่าวสลดใจในเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น และยืนยันว่าทางบริษัทให้บริการเช่ารถบรรทุกเท่านั้น ไม่มีอาวุธสังหาร ซึ่งรวมไปถึงปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ
เมโทร สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) ว่า ผู้จัดการหญิงของบริษัทให้เช่ารถบรรทุก Via Location ได้เปิดเผยกับ MailOnline ว่า โมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ บูห์แลล (Mohamed Lahouaiej Bouhlel) มือก่อการร้ายสองสัญชาติซึ่งเกิดในตูนิเซีย วัย 31 ปี ได้ร้องขอเช่ารถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สุดที่ทางบริษัทจัดหาได้ในระหว่างที่ดำเนินการเช่ารถ ก่อนที่จะนำรถบรรทุกขนาด 90 ตันเป็นอาวุธก่อการร้ายสังหารผู้คนไปถึง 84 ชีวิต และได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 200 คน
โดยผู้จัดการบริษัท Via Location ในเมืองนีซกล่าวว่า “ผู้ก่อการร้ายร้องขอเช่ารถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทางเรามี” และเธอยังกล่าวต่อว่า “ทางเราให้บริการเช่าเฉพาะรถบรรทุกเท่านั้น ไม่มีการจัดหาอาวุธ รวมไปถึงปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ และเราทุกคนต่างรู้สึกตกใจ พวกเราอาศัยอยู่ในเมืองนีซ และคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนญาติในครอบครัว”
ที่ผ่านมากลุ่มก่อการร้าย IS ได้อ้างความรับผิดชอบในเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่าบูห์แลลได้ใช้บัตรเครดิตของตัวเองรวมไปถึงใบขับขี่เป็นหลักฐานการรับรถบรรทุกในวันจันทร์ (12 ก.ค.) จากแซ็ง โลรองต์ ดู วาร์ (Saint-Laurent-du-Var) ซึ่งห่างจากเมืองนีซไปทางใต้ราว 30 นาที
และหลักฐานประจำตัวของบูห์แลลถูกพบบนรถบรรทุกคันเกิดเหตุหลังจากนั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงชายผู้นี้เสียชีวิต ซึ่งมีรายงานว่าผู้ก่อการร้ายรายนี้มีกำหนดต้องส่งคืนรถบรรทุกเช่าในวันพุธ (13 ก.ค.) ก่อนที่บูห์แลลจะได้ขับผ่านฝูงชนในวันบัสตีย์ เป็นวันชาติของฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี (14)
ผู้ก่อการร้ายวัย 31 ปีได้จอดรถไว้ภายในบริเวณจุดที่ตำรวจฝรั่งเศสกำหนด พร้อมกับชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นคนขับรถบรรทุกเพื่อส่งไอศกรีม ซึ่งในภาพโทรทัศน์วงจรปิดพบว่ บูห์แลลขี่จักรยานกลับมาที่รถบรรทุกอีกครั้งในเวลาราว 21.04 น. และได้โยนจักรยานเข้าไปยังบริเวณด้านหลังของตัวรถบรรทุก ก่อนที่จะเริ่มใช้รถบรรทุกดังกล่าวขับแบบซิกแซกพุ่งชนฝูงชนในเวลา 22.45 น. ซึ่งถูกหยุดลงในอีก 2 กม.ข้างหน้าบนทางเลียบชายหาด โพรเมอนาด เดซ็องเกลส์ (Promenade des Anglais) จากสิ่งกีดขว่างที่ทางตำรวจตั้งขึ้น ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้รอยเตอร์รายงานว่า โมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ บูห์แลล บุคคลสองสัญชาติเกิดที่ตูนิเซีย วัย 31 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ เป็นที่รู้จักของตำรวจเนื่องจากเคยก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบ ทั้งนี้ เขาเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา 1 ครั้ง ฐานเดือดดาลบนท้องถนน และโดนโทษควบคุมความประพฤติ 3 เดือน จากกรณีขว้างแท่นไม้วางของเข้าใส่ผู้ขับขี่คันอื่น
โดยทีมสืบสวนฝรั่งเศสไม่พบประวัติหัวรุนแรงหรือการเป็นอิสลามิสต์ โดย NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า วาลิด ฮาเมา (Walid Hamou) ผู้คุ้นเคยกับอดีตภรรยาของบูห์แลล ยืนยันว่าชายผู้นี้กระทำไปเพราะไม่มีสิ่งใดต้องสูญเสีย “เขาไม่ใช่มุสลิม” และกล่าวต่อว่า “ชายผู้นี้บริโภคเนื้อหมู ดื่มสุรา และลงมือทุบตีภรรยา ซึ่งนั่นไม่ใช่วิถีของชาวมุสลิม”
นอกจากนี้ ฮาเมายังยืนยันว่า บูห์แลลไม่ใช่พวกอิสลามิสต์ แต่เป็นความรุนแรงเฉพาะตัวที่กระทำลงไป และไม่มีสิ่งใดที่ต้องเสีย ซึ่งฮาเมาได้กล่าวเพิ่มเติมต่อว่า บูห์แลลคุณพ่อลูกสามไม่ทักทายเขาในครั้งแรกที่ได้รู้จัก “เขาไม่ยอมทักทายผมเมื่อผมกล่าวสวัสดี และผมไม่ต้องการรู้จักเขา” และรู้สึกว่าชายผู้นี้นอกเหนือจากมีนิสัยที่เห็นแก่ตัวแล้วยังเป็นตัวอันตรายอีกด้วย
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า คนทั้งคู่อาศัยในย่านเดียวกัน โดยอ้างว่าภรรยาของบูห์แลลได้ทิ้งไป และบุตรทั้งสามของเขาไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับชายผู้นี้ ซึ่งคนรู้จักของอดีตภรรยามือก่อการร้ายฝรั่งเศสยืนยันว่าบูห์แลลไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายใดๆ และไม่ใช่มุสลิม เป็นแค่คนที่บ้าคลั่งเท่านั้น
