xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจเผยรูปถ่าย “ซาลาห์ อับเดสลาม” ชายต้องสงสัยเอี่ยวโจมตีปารีส-ฝูงบินขับไล่ฝรั่งเศสถล่ม “เมืองหลวง IS” ในซีเรีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตำรวจฝรั่งเศสเผยภาพถ่าย ซาลาห์ อับเดสลาม วัย 26 ปี หนึ่งในชายต้องสงสัยเอี่ยววินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.
เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศสเผยภาพใบหน้าชายต้องสงสัยวัย 26 ปีที่คาดว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุวินาศกรรมในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13 พ.ย.) ขณะที่กองทัพอากาศฝรั่งเศสส่งฝูงบินขับไล่ถล่มฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเมืองรอกเกาะห์ของซีเรียเมื่อวานนี้ (15) ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศระลอกแรกที่มีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่

ขณะที่ชาวเมืองน้ำหอมทั้งประเทศเตรียมยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อโจมตีปารีสในวันนี้ (16) เครื่องบินขับไล่ก็ถูกส่งออกไปทิ้งระเบิด 20 ลูกโจมตีฐานที่มั่นไอเอสในเมืองรอกเกาะห์ ซึ่งถูกยกให้เป็น “เมืองหลวง” ของรัฐคอลีฟะห์ที่พวกนักรบญิฮาดก่อตั้งขึ้น

กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสแถลงว่า ภารกิจของฝูงบินขับไล่สามารถโจมตีทั้งศูนย์บัญชาการ ศูนย์จัดหาสมาชิกใหม่ คลังอาวุธ และค่ายฝึกก่อการร้ายของพวกไอเอส

ปฏิบัติการทางอากาศครั้งนี้ถือเป็นสิ่งยืนยันว่าฝรั่งเศสยังไม่ละทิ้งจุดยืนที่จะทำสงครามกวาดล้างไอเอสให้สูญสิ้น ขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ก็ออกมาระบุว่าเหตุโจมตีในปารีสเป็น “การก่อสงคราม” และประกาศจะแก้แค้นพวกนักรบหัวรุนแรง “อย่างไม่ปรานี”

ขณะที่กระบวนการสอบสวนกำลังแผ่ขยายออกไปทั่วยุโรป ตำรวจฝรั่งเศสก็ได้เปิดเผยภาพถ่าย ซาลาห์ อับเดสลาม วัย 26 ปี หนึ่งในชาย 3 พี่น้องที่คาดว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุวินาศกรรมในปารีส และถือเป็น “บุคคลอันตราย” ที่ทางการเมืองน้ำหอมต้องการตัว ขณะที่เบลเยียมก็ได้ออกหมายจับสากลเพื่อล่าตัวชายคนนี้แล้ว

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า อับเดสลาม อาจกำลังหลบหนี หรือไม่ก็อยู่ในกลุ่มมือปืนที่เสียชีวิตระหว่างการโจมตี

ชายคนนี้เคยอาศัยอยู่ในชุมชนผู้อพยพย่านโมเลนบีก (Molenbeek) ที่กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งตำรวจเบลเยียมก็ได้เข้าไปจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายที่อาจเชื่อมโยงกับเหตุวินาศกรรมปารีส

บราฮิม อับเดสลาม วัย 31 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของ ซาลาห์ กดระเบิดฆ่าตัวตายที่ถนนวอลแตร์ทางตะวันออกของกรุงปารีส ส่วนพี่น้องคนที่ 3 ของเขาคาดว่าจะเป็น 1 ใน 7 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ในเบลเยียม

มือปืนอีก 6 คนกดเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตายระหว่างก่อเหตุสังหารหมู่ โดย 3 คนแรกเสียชีวิตบริเวณสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ และอีก 3 คนที่โรงละครบาตากล็อง (Bataclan) ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้คนถูกสังหารไปเกือบ 100 คน

รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาฝรั่งเศสเปิดเผยว่า มือระเบิดอย่างน้อย 1 คนพยายามบุกเข้าไปภายในสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ซึ่งขณะนั้นกำลังมีการดวงแข้งนัดกระชับมิตรระหว่างทีมฟุตบอลฝรั่งเศสและเยอรมนี

อัยการเมืองน้ำหอมเชื่อว่า การก่อการร้ายครั้งนี้น่าจะมีผู้ก่อเหตุถึง 3 กลุ่ม และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ว่า อาจจะยังมีมือปืน 1 รายหรือมากกว่านั้นหลบหนีไปได้

พนักงานสอบสวนยืนยันแล้วว่า มือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 คนเป็นพลเมืองฝรั่งเศส โดย 2 คนเคยอาศัยอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ส่วนรถยนต์ 2 คันที่ใช้ในการก่อเหตุก็ถูกเช่ามาจากเบลเยียม

รถคันหนึ่งถูกพบใกล้ๆ กับโรงละครบาตากล็อง ส่วนอีกคันเป็นรถ “เซียต” สีดำซึ่งจอดอยู่ที่ย่านมงเทรย (Montreuil) ทางตะวันออกของปารีส โดยภายในรถพบปืน AK47 ซุกซ่อนอยู่จำนวนหนึ่ง

คนร้ายรายแรกที่พนักงานสอบสวนระบุชื่อ คือ โอมาร์ อิสมาอีล มอสเตไฟ หนุ่มฝรั่งเศสวัย 29 ปี โดยเจ้าหน้าที่พบเศษนิ้วมือของเขาตกอยู่ที่โรงละครบาตากล็อง ซึ่งกลุ่มมือปืนชุดดำสวมเข็มขัดระเบิดได้บุกเข้าไปกราดยิงผู้ชมในงานคอนเสิร์ตจนเสียชีวิตรวม 89 ราย

แหล่งข่าวด้านยุติธรรมระบุว่า ตำรวจฝรั่งเศสได้ควบคุมตัวบุคคล 6 คนที่มีความใกล้ชิดกับ มอสเตไฟ รวมถึงบิดา พี่ชาย และพี่สะใภ้ของเขา

ชายคนนี้เกิดที่ย่านกูร์กูรอนน์ส (Courcouronnes) ในกรุงปารีส เคยมีประวัติถูกจับฐานก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ รวม 8 คดี แต่ยังไม่เคยติดคุกมาก่อน

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจทางตอนใต้ของเยอรมนีได้เข้าตรวจค้นรถยนต์ของชายจากมอนเตเนโกร พบอาวุธปืนไรเฟิล “คาลาชนิคอฟ” 8 กระบอก, ปืนพก 3 กระบอก และวัตถุระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าของรถซึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังกรุงปารีสปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

ตำรวจฝรั่งเศสยังพบ “หนังสือเดินทางซีเรีย” ตกอยู่ใกล้ๆ กับศพของมือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่ง ทำให้มีความวิตกกังวลว่า ผู้ก่อเหตุบางคนอาจแฝงตัวเข้ามาในยุโรปพร้อมกับคลื่นผู้อพยพที่หลบหนีสงครามกลางเมืองซีเรีย

กำลังโหลดความคิดเห็น