เอเอฟพี/รอยเตอร์ - รถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งชนฝูงชนที่กำลังออกจากงานแสดงพลุไฟฉลองวันชาติฝรั่งเศส ในเมืองนีซ เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสันนิษฐานว่าอาจเป็นการโจมตี ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 73 คน ในนั้นรวมถึงคนขับรถบรรทุกที่ถูกวิสามัญ เหตุนองเลือดล่าสุดในแดนน้ำหอมที่กระตุ้นให้ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ต้องรุดเดินทางกลับปารีส และไปยังศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน
ตำรวจและหน่วยฉุกเฉินรุดไปยังจุดเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากจังหวัดอาลป์-มารีตีม เรียกร้องประชาชนให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย ตามหลังเหตุการณ์ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นการตั้งใจโจมตีฝูงชนที่กำลังรับชมการแสดงพลุไฟประจำปี
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีระบุว่า พบเห็นรถบรรทุกสีขาวแล่นเข้าสู่ถนนเดส ซ็องเกรส์ ซึ่งเป็นถนนเลียบชายหาด ด้วยความเร็วสูง ระหว่างที่ผู้คนกำลังออกจากงานแสดงพลุไฟฉลองวันชาติฝรั่งเศส “เราเห็นผู้คนถูกชน และเศษสิ่งของกระเด็นไปทั่ว”
เบื้องต้นรอยเตอร์อ้างรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศส BFM TV ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในเมืองทางภาคใต้ของประเทศอย่างน้อย 30 ราย บาดเจ็บนับร้อยคน และมันได้รับการจัดการในฐานะเหตุโจมตี
รายงานข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับคำข้อมูลของคริสติยอง เอสโตรซี นายกเทศมนตรีเมืองนีซ ที่เขียนระบุบนทวิตเตอร์ว่า อาจมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้หลายสิบราย “ดูเหมือนคนขับรถตู้น่าจะฆ่าไปหลายสิบชีวิต ตอนนี้จงอยู่แต่ในบ้าน ข้อมูลอื่นๆ จะตามมา”
ต่อมาสถานีโทรทัศน์ ITELE TV อ้างคำบอกเล่าจากสำนักงานอัยการนีซระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีครั้งนี้มีอย่างน้อย 60 ราย อย่างไรก็ตาม สื่อแห่งนี้อ้างแหล่งข่าวตำรวจระบุล่าสุดว่ายอดเหยื่อพุ่งเป็น 73 ศพแล้ว
นีซ มาแต็ง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อ้างข้อมูลจากผู้สื่อข่าวของพวกเขาที่อยู่ ณ จุดเกิดเหตุระบุว่า พบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและเลือดนองบนถนน พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายระยะไกลของรถบรรทุกส่งของ ซึ่งพวกเขาบอกว่าพรุนไปด้วยรูกระสุนและภาพหน่วยฉุกเฉินกำลังรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ
เซบาสเตียง ฮุมแบร์ต เจ้าหน้าที่ของจังหวัดอาลป์-มารีตีม เผยกับสถานีวิทยุ France Infos ว่าคนขับที่ขับรถบรรทุกด้วยความเร็วสูงในระยะทางกว่า 100 เมตรไปตามถนนเดส ซ็องเกรส์ ก่อนพุ่งเข้าชนผู้คน ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต พร้อมระบุชัดเจนว่ามันเป็นการโจมตี แม้ยังไม่ทราบว่าคนขับเป็นใคร
เกือบ 8 เดือนก่อน นักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อวินาศกรรมกรุงปารีส คร่าชีวิต 130 ศพ และเมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) ที่ผ่านมาฝรั่งเศสเพิ่งคลายความกังวลลง หลังศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 จบลงโดยไม่มีเหตุโจมตีใดๆ
หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ เคยรายงานต่อเนื่องเกี่ยวกับภัยคุกคามของไอเอสต่อการโจมตีฝรั่งเศสและมองภัยคุกคามเหล่านั้นว่าสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คนเผยว่าพวกเขายังไม่มีข้อมูลในตอนนี้ว่ามีนักรบเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในเมืองนีซหรือไม่
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นพูดคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า พบเห็นรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชน กวาดผู้คนล้มลงกับพื้น เร่งเครื่องชนพวกเขา และบอกว่าเห็นคนอยู่บนรถบรรทุกเพียงคนเดียว
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ที่กำลังปฏิบัติภารกิจทางภาคใต้ของฝรั่งเศส รุดบินกลับมายังกรุงปารีสในตอนเช้ามืดวันศุกร์ (15 ก.ค.) เพื่อไปบัญชาการที่ศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน ณ กระทรวงมหาดไทย
ทางโฆษกกระทรวงมหาดไทยเผยว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีการจับตัวประกันและแรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ชัดเจน “ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ”