xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มสวามิภักดิ์ “ไอเอส” ใช้มีดแทงตำรวจฝรั่งเศสดับ-บุกเข้าบ้านฆ่าเมียอีกศพ ก่อนถูกวิสามัญฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายหน่วย RAID เดินทางออกจากพื้นที่ หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการจููาโจมคนร้ายซึ่งก่อเหตุสังหารตำรวจที่เมืองแม็กน็องวิลล์ ห่างจากรุงปารีสไปทางตะวันตกราว 45 กิโลเมตร เมื่อคืนวันจันทร์ (13 มิ.ย.)
เอเอฟพี - ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าได้สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้มีดแทงตำรวจฝรั่งเศสกับภรรยาเสียชีวิตเมื่อคืนวานนี้ (13 มิ.ย.) ก่อนที่ตัวเขาเองจะถูกสังหารในปฏิบัติการจู่โจมของตำรวจ

สื่อของไอเอสอ้างว่า เหตุการณ์นี้เป็นฝีมือ “นักรบรัฐอิสลาม” โดยก่อนหน้านี้ก็ได้โพสต์ข้อความอ้างผลงานในทำนองเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุกราดยิงไนต์คลับชาวสีม่วงที่เมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดาในสหรัฐฯ

อัยการฝรั่งเศสได้เปิดการสอบสวนคดีก่อการร้าย หลังจากตำรวจนายหนึ่งและภรรยาของเขาถูกสังหารภายในบ้านที่เมืองแม็กน็องวิลล์ (Magnanville) ชานกรุงปารีส

พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชายคนนี้ดูเหมือนจะตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบาร์” (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด) ขณะที่ใช้มีดแทงนายตำรวจซ้ำหลายครั้งที่หน้าบ้านของเขา ก่อนจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านซึ่งมีภรรยาและลูกชายวัย 3 ขวบของผู้ตายอยู่ด้วย

ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายจากหน่วย RAID ได้ปฏิบัติการจู่โจมเพื่อช่วยชีวิตตัวประกัน หลังการเจรจากับคนร้ายไม่เป็นผล ซึ่งก่อนหน้านั้นคนร้ายได้บอกตำรวจว่า เขาเป็นผู้ภักดีต่อไอเอส

ศูนย์จับตาความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้าย SITE ซึ่งมีฐานในสหรัฐฯ อ้างข้อมูลจากสำนักข่าวอามัค (Amaq) ซึ่งเป็นสื่อที่ใกล้ชิดกับไอเอส โดยสื่อสำนักนี้ได้เผยแพร่ข้อความผ่านช่องเทเลแกรมว่า “นักรบไอเอสสามารถสังหารรองผู้กำกับการตำรวจฝรั่งเศสประจำเมือง เลส์ มูโร (Les Mureaux) และภรรยาของเขา ด้วยอาวุธมีคม ใกล้กับ #ปารีส”

เหตุโจมตีในเมืองน้ำหอมครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากที่ โอมาร์ มาทีน วัย 29 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้สวามิภักดิ์ไอเอส ใช้ปืนกราดยิงไนต์คลับ เดอะ พัลส์ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงสำหรับชาวเกย์ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อคืนวันอาทิตย์ (12) จนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 50 คน บาดเจ็บอีกกว่าครึ่งร้อย ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่ฝรั่งเศสกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 และเพิ่งจะผ่านพ้นเหตุวินาศกรรมครั้งเลวร้ายในกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้ถูกคร่าชีวิตไปถึง 130 คน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุชื่อคนร้าย และยังไม่เปิดเผยชื่อของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน โดยทราบแต่เพียงว่าตำรวจที่ตายอายุ 42 ปี และทำงานอยู่ที่เมืองเลส์ มูโร

ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ได้ประณาม “การกระทำที่น่าเกลียดชัง” ครั้งนี้ด้วยถ้อยคำรุนแรง

“ผู้กำกับการตำรวจและภรรยาของเขาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา... เราจะต้องสืบคดีนี้ให้มีความกระจ่าง” ออลลองด์ ระบุ พร้อมทั้งเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำเนียบประธานาธิบดีในช่วงเช้าวันนี้ (14)

ปิแอร์-อองรี บร็องเดต์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หลังจากคนร้ายถูกสังหาร ตำรวจได้บุกเข้าไปภายในบ้าน และพบภรรยาของตำรวจผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่

อัยการคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า บุตรชายวัย 3 ขวบของทั้งคู่ “อยู่ในอาการช็อก แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ” และขณะนี้เด็กยังอยู่ในความดูแลของแพทย์

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวตำรวจได้เผยกับเอเอฟพีว่า คนร้ายได้ใช้มีดแทงนายตำรวจเสียชีวิตขณะที่เขากลับถึงบ้านเวลา 21.00 น. จากนั้นจึงบุกเข้าไปในบ้าน และจับภรรยากับลูกของผู้ตายเป็นตัวประกัน

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงถูกสั่งอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่ตำรวจเดินทางไปถึง

บร็องเดต์ระบุว่า ตำรวจหน่วย RAID “เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และมีการเจรจากับคนร้าย รวมถึงวางแผนจู่โจม” แต่โชคร้ายที่การต่อรองไม่ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดสินใจลงมือจู่โจมในเวลาประมาณเที่ยงคืน


กำลังโหลดความคิดเห็น