เอเอฟพี - น้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ (1 ก.ค.) หลังวิกฤตจับตัวประกันในบังกลาเทศรื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองและผลกระทบทางอุปทานขึ้นมาอีกคำรบ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกา ขณะที่ทองคำพุ่งแรงกว่า 18 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 66 เซ็นต์ ปิดที่ 48.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 64 เซ็นต์ ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กรณีกลุ่มมือปืนบุกเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติและเวลานั้นมีคนอยู่เต็มร้าน ในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ค.) พร้อมจับลูกค้าเป็นตัวประกันและเกิดการปะทะกับตำรวจ นักวิเคราะห์ระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นการซ้ำเติมตลาดน้ำมันที่กระวนกระวายใจอยู่ก่อนแล้วจากเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินอะตาเติร์ก อิสตันบูล เมื่อวันอังคาร (28 มิ.ย.) คร่าชีวิต 44 ศพ
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ยังปิดบวกต่อเนื่อง จากข้อมูลการผลิตที่ดีเกินคาดหมายของอเมริกา ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษแยกตัวจากอียูเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 19.38 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,949.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.09 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,102.95 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.90 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,862.57 จุด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิถุนายนของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เพิ่มขึ้นเกิดคาดหมาย โดยอยู่ที่ 53.2 จุด จาก 51.3 จุดในเดือนพฤษภาคม
ความเคลื่อนไหวในวันศุกร์ (1 ก.ค.) นับเป็นการปรับขึ้น 4 วันติดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากดิ่งลง 2 วันติดตามหลังอังกฤษสร้างความประหลาดใจด้วยการลงประชามติแยกตัวจากอียู
ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ปิดบวกแรง ทำสถิติปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,339.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์