เอเจนซีส์ - นักธุรกิจชาวจีนผู้ยอมรับว่ามีส่วนในการแฮ็กข้อมูลลับของกลาโหมสหรัฐฯ ถูกลงโทษให้จำคุกเกือบ 4 ปี
ซู บิน ชาวจีนวัย 51 ปี ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในแผนของเจ้าหน้าที่ทางทหารของจีน ซึ่งใช้เวลานานนับปีเพื่อล้วงข้อมูลทางทหารที่ละเอียดอ่อน โดยมีหลายเป้าหมาย อาทิ เครื่องบินรบ F-22 และ F-35 , เครื่องบินขนส่ง C-17
นอกเหนือจากโทษจำคุก 46 เดือน ศาลในลอสแอนเจลิสยังได้สั่งให้ "ซู บิน" จ่ายค่าปรับ 10,000 ดอลลาร์
จอห์น คาร์ลิน ผู้ช่วยอัยการสูงสุด ด้านความมั่นคงของชาติ ระบุว่า ซูให้ความช่วยเหลือแฮ็กเกอร์ทางทหารของจีน ในความพยายามที่จะเข้าถึงอย่างผิดกฏหมายและขโมยแบบก่อสร้างอากาศยานทางทหารที่ล้ำยุค ซึ่งขาดไม่ได้สำหรับการป้องกันประเทศ
รัฐบาลจีนปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงการเกี่ยวข้องใดๆ ในการแฮ็กข้อมูลเหล่านั้น แต่รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่ามีหลักฐานแน่นหนา
อย่างไรก็ตาม การทำตัวเป็นสายลับของซูได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในจีน โดยสื่อของทางการจีนได้ยกให้เขาเป็นฮีโร่
"เราอยากจะแสดงให้เห็นถึงความขอบคุณและเคารพในสิ่งที่เขาทำให้ประเทศชาติ ในสมรภูมิลับที่ไร้ซึ่งดินปืน จีนจำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่พิเศษคอยล้วงความลับสหรัฐฯ" บทบรรณาธิการช่วงเดือนมีนาคม ของหนังสือพิมพ์กลอบัลไทม์ ระบุ
ในคำฟ้องช่วงเดือนสิงหาคม 2014 อัยการระบุว่า ซู ผู้ทำธุรกิจบริษัทการบินและอวกาศในจีน ได้เดินทางจากแคนาดาเข้าสหรัฐฯ อย่างน้อย 10 ครั้ง ช่วงปี 2008 - 2014 โดยทำงานกับผู้ร่วมสมคบคิดในจีนที่ยังระบุตัวตนไม่ได้อีก 2 ราย เพื่อขโมยข้อมูล
จากข้อมูลของอัยการ ซูได้ยอมรับผิดว่ามีการส่งอีเมลล์ไปให้กับผู้ร่วมสมคบคิดเพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล บริษัทและเทคโนโลยีของเป้าหมาย ซึ่งพวกเขาแฮ็กและแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน
ซู ถูกจับกุมที่แคนาดาในปี 2014 แล้วในท้ายที่สุดก็ถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปให้กับทางสหรัฐฯ