เอพี/เอเจนซีส์ –เคนเนธ แฟรงกลิน ชินซาโต (Kenneth Franklin Shinzato) วัย 32 ปีอดีตนาวิกโยธินาสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่พลเรือนฐานทัพอากาศสหรัฐฯคาเนดะ คุณพ่อลูก 3 ที่มีภรรยาเป็นชาวญี่ปุ่น ขอย้ายไปขึ้นศาลไต่สวนคดีข่มขืนรินะ ชิมาบุกูโร( Rina Shimabukuro)สาวออฟฟิซวัย 20 ปี ออกจากเกาะโอกินาวาไปยังกรุงโตเกียว เชื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม และร้องขออนุญาตให้มีล่ามแปลภาษามืออาชีพและตรวจสุขภาพจิต ในขณะเพื่อนบ้านชินซาโตต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน เป็นคนนิสัยดี และขี้อาย
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(6 ก.ค)ว่า โตชิมิตซุ ทาเคอิซุ(Toshimitsu Takaesu)ทนายความประจำตัวของอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนฐานทัพอากาศสหรัฐฯคาเนดะวัย 32 ปี เคนเนธ แฟรงกลิน ชินซาโต (Kenneth Franklin Shinzato)ผู้ต้องสงสัยคดีข่มขืนและฆ่า รินะ ชิมาบุกูโร( Rina Shimabukuro)สาวโอกินาวาวัย 20 ปี ได้ออกแถลงการณ์ในวันพุธ(6 ก.ค)ประกาศว่า ได้ยื่นคำร้องในวันจันทร์(4 ก.ค)เพื่อขอให้ลูกความถูกย้ายไปยังศาลกรุงโตเกียวแทน เนื่องจากเชื่อมั่นว่าลูกความจะไม่ได้รับความยุติธรรมหากยังต้องถูกดำเนินการไต่สวนในชั้นศาลโอกินาวา
ทั้งนี้เอพีรายงานว่า เคนเนธ ชินซาโตถูกจับกุมในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในข้อหาข่มขืนและฆ่า พร้อมกับทิ้งศพ เกิดขึ้นก่อนหน้าการเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ที่มีญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ
ทาเคอิซุให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์จากสำนักงานบนเกาะโอกินาวาว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกความคือการได้รับการไต่สวนอย่างเป็นธรรม” และเสริมต่อว่า “แต่การรายงานของสื่อมวลชนต่างตัดสินไปแล้วว่าเคนเนธ ชินซาโตเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คำตัดสินที่จะออกมาเชื่อว่า จะอยู่ในแนวทางว่ามีความผิดไม่ว่าจะมีหลักฐานออกมาในทิศทางใดก็ตาม”
และยังยืนยันว่า ชินซาโตปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาในคดีข่มขืนและฆ่า แต่ทว่าในรายงานของสื่อญี่ปุ่น อาซาฮีชิมบุนในวันที่ 23 พ.คชี้ว่า ในการเสนอเข้าให้ปากคำของชินซาโตในวันที่ 16 พ.ค ชินซาโตปฎิเสธความผิดในทุกข้อกล่าวหา แต่ทว่าในการให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 19 พ.คของชินซาโตกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโอกินาวา ชายผู้นี้ยอมรับว่า เขาได้ทิ้งร่างเหยื่อสาวออฟิซโอกินาวาวัย 20 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งจริง ซึ่งทางตำรวจได้จับกุมตัวชินซาโตหลังจากได้เดินทางไปตรวจค้นจุดที่ชินซาโตให้การถึงจุดทิ้งศพ และพบร่างเหยื่อผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ รินะ ชิมาบุกูโรถูกแจ้งความหายตัวไปในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่พลเรือนฐานทัพอากาศสหรัฐฯคาเนดะวัย 32 ปีผู้นี้ยอมรับสารภาพว่า เขาได้ใช้เวลา 2-3 ช.มเพื่อเดินหาเหยื่อลงมือก่อเหตุในเมืองอุรุมะ(Uruma)บนเกาะโอกินาวา ก่อนที่จะใช้ท่อนไม้ตีที่บริเวณด้านหลังของศรีษะของชิมาบุกูโร และลงมือข่มขืนเหยื่อสาวที่มีรายงานว่า เธอกำลังเดินเล่นในช่วงยามค่ำคืน และหลังจากเสร็จกิจแล้ว ชินซาโตแทงชิมาบุกูโรจนเสียชีวิต อาซาฮีชิมบุนรายงานต่อ
นอกจากนี้จากการรายงานของสื่อญี่ปุ่น ชินซาโตยอมรับสารภาพว่า เขาได้นำร่างของมาบุกูโรใส่ในกระเป๋าเดินทาง และนำขึ้นรถของตัวเองเพื่อไปทิ้งในบริเวณป่า ซึ่งมีการพบร่างของเหยื่อสาวโอกินาวาในวันที่ 21 เม.ย
อาซาฮีชิมบุนรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ชินซาโตเป็นชาวนิวยอร์ก ชื่อเดิมก่อนแต่งงานคือ เคนเนธ แฟรงกลิน แกดสัน (Kenneth Franklin Gadson) และหันมาใช้นามสกุลภรรยา “ชินซาโต” หลังจากที่ได้แต่งงานแล้วโดยจากการรายงานของสื่อญี่ปุ่น tokyoreporter ชี้ว่าคนทั้งคู่มีบุตร 3 คน
และอาซาฮีชิมบุนรายงานว่า ชินซาโตแต่เดิมเป็นทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯจากนิวยอร์ก ถูกส่งตัวมาประจำบนเกาะโอกินาวา ที่ซึ่งเขาพบรักกับภรรยาชาวญี่ปุ่น และแต่งงานกันหลังจากนั้น
นอกจากนี้เพื่อที่จะยังสามารถอาศัยกับครอบครัวในญี่ปุ่นต่อไป ชินซาโตได้ยอมลาออกจากการเป็นทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ 2 ปีก่อนหน้านี้ และได้สมัครเข้าทำงานในฝ่ายพลเรือนประจำฐานทัพอากาศคาเนดะแทน ซึ่งงานประจำตำแหน่งที่ได้รับนั้นเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เนต
อาซาฮีชิมบุนรายงานเพิ่มเติมต่ออีกว่า ชินซาโตและครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านแบบครอบครัวเดี่ยวในโยนาบูรุ( Yonabaru) 20 กม.ทางใต้ของฐานทัพอากาศคาเนดะ ซึ่งพบว่าคนทั้งคู่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในปลายเดือนเมษายนล่าสุด โดยเพื่อนบ้านชายชาวญี่ปุ่นวัย 52 ปีรายหนึ่งให้ความเห็นว่า “ถึงแม้ชินซาโตเป็นคนร่างใหญ่ แต่ทว่าไม่เคยทำให้ใครรู้สึกว่าเป็นคนน่ากลัวแม้แต่น้อย”
ในขณะที่เพื่อนบ้านวัย 21 ปีอีกรายให้ความเห็นเกี่ยวกับชินซาโตว่า “เมื่อดิฉันพบกับชินซาโตตามท้องถนน หากเกิดสบตาเขาเข้า เขามักจะหันไปมองทางอื่น ซึ่งดิฉันคิดว่าเขาค่อนข้างขี้อาย”
โดยก่อนหน้าที่ชินซาโตจะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังปัจจุบันนี้ พบว่าเขาได้พักอยู่ในอพาทเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองโอกินาวา โดยอดีตเพื่อนร่วมอพาทเมนต์วัย 36 ปีให้ความเห็นว่า “ชินซาโตมักจะยิ้ม และทักทายลูกๆดิฉันเสมอเวลาพบกันข้างนอก เขาดูเหมือนเป็นคนที่จิตใจดี”
เอพีรายงานต่อว่า คดีข่มขืนและฆ่าชิมาบุกูโรสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวโอกินาวาเป็นอย่างมาก และส่งผลทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างโตเกียวและวอชิงตันในวันอังคาร(5 ก.ค)ประกาศการลดภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับเจ้าหน้าที่พลเรือนสหรัฐฯประจำฐานทัพอากาศคาเนดะภายใต้ข้อตกลง SOFA ที่ได้ให้การคุ้มกันทางกฎหมายเฉพาะกับกองกำลังสหรัฐฯจากการสอบสวนของทางการญี่ปุ่นในกรณีอยู่ในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ การเกิดเหตุภายในฐานทัพ หรือคดีอาชญากรรม
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับชินซาโต คดีของเขาไม่ได้รับความคุ้มกันจากข้อตกลง SOFA นี้ และได้ถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่นนับตั้งแต่การเริ่มต้นการสอบสวน