สุราษฎร์ธานี - ทนายความ 2 ผู้ต้องขังชาวพม่า คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี นำเอกสาร จำนวน 200 หน้า เข้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในเช้าวันนี้ ด้านมารดาของผู้ต้องขังยังเชื่อลูกชายเป็นผู้บริสุทธิ์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นางอัมพร สังข์ทอง ทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งจากสภาทนายความ พร้อมด้วย นางเมย เตียน เเละนางพิว ฉ่วย นุ มารดาของผู้ต้องขังชาวพม่า ที่ก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และนายจอย เอ มาว องค์กรสิทธิมนุษยชนรัฐยะไข่ หรือ RNDE ประเทศพม่า ได้นำเอกสาร จำนวน 200 หน้า เข้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ในคดีที่นายซอริน และนายเวพิว ผู้ต้องขังชาวพม่า ก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา
โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำ เลขที่ 2040/2557 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กระทำความผิดในข้อหาข่มขืน และฆ่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ และฆ่านักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จึงตัดสินประหารชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 2 คน
นางอำพร สังข์ทอง ทนายความ กล่าวว่า ในเรื่องของเอกสารที่นำมายื่นต่อศาลในครั้งนี้ เป็นส่วนของเอกสารที่เป็นประเด็นข้อโต้แย้งคัดค้านการพิพากษาของศาลชั้นต้น ประเด็นในการตรวจสอบกระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบสวนสอบสวน และพยานหลักฐานพิสูจน์ที่มีความบกพร่องไม่สมบูรณ์ ที่เป็นหลักๆ ในการยื่นอุทธรณ์ พร้อมกันนี้ หลังจากที่ได้ยื่นเอกสารต่อศาลแล้ว ต่อไปก็ต้องรอทางพนักงานอัยการโจทก์ได้ยื่นแก้อุทธรณ์เข้ามาก่อน และหลังจากนั้น ก็จะมีการส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอีกที จากนั้นต้องรอระยะเวลาอีกที ว่าศาลอุทรณ์จะนัดฟังคำพิจารณาวันไหน ซึ่งในเรื่องนี้ทางฝ่ายจำเลยเองยังมีความหวังว่า ขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาได้ตรวจสอบพยานหลักฐานทุกอย่างในสำนวนให้ครบทุกด้าน เพราะว่ายังเชื่อว่าหลักฐานบางตัวที่ศาลยังไม่ได้พิจารณา
ด้าน นายจอย เอ มาว องค์กรสิทธิมนุษย์ชนรัฐยะไข่ หรือ RNDE ประเทศพม่า กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมยื่นอุทธรณ์ในครั้งนี้เพื่อสังเกตุการณ์ และเชื่อว่าศาลอุทธรณ์ คงให้ความเป็นธรรมต่อผู้ต้องขังทั้ง 2 คน
ขณะที่ นางเมย เตียน เเละนางพิว ฉ่วย นุ ยังเชื่อว่า ลูกชายไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดในคดีนี้ หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม และขอยืนยันว่า จะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุดตามกฎหมายประเทศไทย ทั้งนี้ก่อนจะเดินทางกลับประเทศพม่าจะไปเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำบางขวางเพื่อให้กำลังใจต่อไป
