เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงแรงในวันอังคาร (5 ก.ค.) หลังข่าวกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นของไนจีเรียและโอเปก รื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอุปทานล้นตลาด ปัจจัยนี้ประกอบกับความไม่แน่นอนในยุโรปฉุดวอลล์สตรีทปิดลบหนัก ส่วนทองคำทะยานจากการเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันทั้งสองสัญญาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากผลอังกฤษโหวตแยกตัวจากสหภาพยุโรป ที่อาจกัดเซาะอุปสงค์ทางพลังงาน
นอกจากนี้แล้ว นักวิเคราะห์ยังระบุด้วยว่า ตลาดยังขานรับรายงานข่าวของบลูมเบิร์กนิวส์ ที่ระบุว่ากำลังผลิตของโอเปกเพิ่มขึ้น 240,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน นำโดยไนจีเรีย 90,000 บาร์เรล และซาอุดีอาระเบีย 70,000 บาร์เรล
ไนจีเรีย ชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา ผลิตน้ำมันโดยเฉลี่ยวันละ 1.53 ล้านบาร์เรลในเดือนมิถุนายน หลังโรงกลั่นต่างๆ ที่เคยได้รับความเสียหายจากการโจมตีของพวกกบฏสามารถฟื้นคืนกำลังผลิตได้แล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรุดลงในช่วงบ่าย ก่อนปิดลบแรงในวันอังคาร (5 ก.ค.) นักลงทุนยังกังวลความไม่แน่นอนในยุโรปและราคาน้ำมันที่ดำดิ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดาวโจนส์ ลดลง 108.75 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,840.62 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.40 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,088.55 จุด แนสแดค ลดลง 39.67 จุด (0.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,822.90 จุด
ธนาคารกลางอังกฤษบอกว่า แนวโน้มเสถียรภาพทางการเงินของสหราชอาณาจักร หลังโหวตออกจากสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน หรือเบร็กซิต กำลังเผชิญความท้าทาย และบอกว่าจำเป็นต้องลดปรับลดอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมายของธนาคารกลางต่างๆลง เพื่อเปิดทางให้เหล่าธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้หรือให้สินเชื่อมากขึ้น
ส่วนทองคำในวันอังคาร (5 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 2014 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจตามหลังผลโหวตเบร็กซิต กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,358.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์