เอพี/เอเจนซีส์ - รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันมีพลเมือง 7 ราย อยู่ในรายชื่อตัวประกัน 20 คน เหตุก่อการร้าย IS สังหารใน โฮเลย์ อาร์ติซาย เบเกอรี และ คาเฟ่ (Holey Artisan bakery and cafe) กรุงธากา ในขณะที่เบื้องต้นเหยื่อชาวต่างชาติรายอื่น ๆ ที่ตกเป็นเหยื่อก่อการร้าย มาจากอินเดีย 1 ราย เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ และพบว่า มีผู้เสียชีวิตชาวอิตาลี 9 ราย ที่ถูกยืนยันโดยกระทรวงต่างประเทศแดนมะกะโรนี และพลเมืองสหรัฐฯ 1 ราย รวมอยู่ในนั้น ซึ่งพบว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอโมรี รัฐจอร์เจีย เสียชีวิต 2 ราย สื่ออังกฤษ ชี้ เหยื่อผู้บริสุทธิ์โดนมีดยาวปาดคอฆ่าโหดหลังจากท่องคัมภีร์อัลกุรอานไม่ได้
เอพีรายงานล่าสุดเปิดชื่อเหยื่อชาวต่างชาติในเหตุบุกจับตัวประกันโดยกลุ่มก่อการร้าย IS นานร่วม 12 ชม. ก่อนที่กองกำลังคอมมานโดบังกลาเทศ จะสามารถบุกเข้าไปสังหารผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จ และสามารถช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือออกมาจากคาเฟ่ ใน โฮเลย์ อาร์ติซาย เบเกอรี และ คาเฟ่ (Holey Artisan bakery and cafe) กลางกรุงธากาได้สำเร็จ
ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า มีตัวประกันถูกกลุ่มติดอาวุธสังหาร 20 ราย จากการรายงานของอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ และ เอพี ชี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ยืนยันพบพลเมืองของตนจำนวน 7 คน รวมอยู่ในนั้น แต่ในเบื้องต้นสามารถระบุได้แล้ว 5 ราย ทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษาสัญชาติญี่ปุ่น 3 บริษัท ภายใต้โปรเจกต์พัฒนาของรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัย ในกรุงธากา ทั้งหมด คือ โคโย โอกาซาวาระ (Koyo Ogasawara) จากบริษัท คาตาฮิระ แอนด์ เอ็นจิเนียร์ส อินเตอร์เนชันแนล Katahira & Engineers International) มาโกโตะ โอกามูระ (Makoto Okamura) จากบริษัท อัลเมค คอร์ป (ALMEC Corp) ยูโกะ ซาไก (Yuko Sakai) จากบริษัท อัลเมค คอร์ป (ALMEC Corp) รูอิ ชิโมดาอิระ (Rui Shimodaira) จากบริษัท อัลเมค คอร์ป (ALMEC Corp) และอีก 3 คน ที่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้เป็นพนักงานของบริษัท ออเรียนทัล คอนซัลแตนต์ โกลบอล (Oriental Consultants Global)
ทั้งนี้ เดลิเมลสื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ออกมาให้ความเห็น โดยกล่าวว่า คนทั้งหมดเป็นชาย 5 คน และหญิงอีก 2 คน ที่เสียชีวิตล้วนทำงานให้กับหน่วยงานเอ็นจีโอต่างชาติที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นเพื่อการพัฒนาบังกลาเทศ
และในส่วน นิวเดลี รัฐบาลอินเดียได้ยืนยันการเสียชีวิตของพลเรือนตนเอง 1 ราย เช่นกัน ทารุชิ เจน (Tarushi Jain) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
นอกจากนี้ เอพีรายงานว่า เหตุการก่อการร้ายคาเฟ่บังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตเป็นชาติมากที่สุดมาจากอิตาลี ซึ่งกระทรวงต่างประเทศอิตาลี ยืนยันการสูญเสียพลเมือง 9 คน ในเหตุก่อการร้าย IS บังกลาเทศ คือ นาเดีย เบเนเดตติ (Nadia Benedetti) วัย 52 ปี ผู้อำนวยการบริหารบริษัทอังกฤษที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงธากา คลอดิโอ แคปเปลลิ (Claudio Cappelli) วัย 45 ปี อาศัยใน เวดาโน อัล ลัมโบร (Vedano al Lambro) ใกล้กับมอนซา (Monza)
ส่วน ซีโมน มอนติ (Simona Monti) วัย 33 ปี ทำงานในบริษัทสิ่งทอ ซึ่งในรายงานข่าวทางการได้สัมภาษณ์น้องชายซึ่งเป็นบาทหลวง ยืนยันว่า ในขณะที่เสียชีวิต มอนติ กำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เป็นทารกเพศชายที่ได้ถูกตั้งชื่อแล้วว่า ไมเคิล แองเจโล( Michel angelo) ซึ่งมอนติมีแผนจะเดินทางกลับมาอิตาลีในเร็ววันนี้ เพื่อที่จะทำการตรวจสุขภาพ เธอมีภูมิลำเนาอยู่ที่ Rieti และ วินเซนโซ ดิ อัลเลสโตร (Vincenzo D'Allestro) วัย 46 เกิดในสวิตเซอร์แลนด์ อาศัยในแอคเซรา(Accera) ทางใต้ของอิตาลี รวมไปถึง อาเดลี พูกลิซี (Adele Puglisi) วัย 54 ปี ผู้จัดการฝ่ายควบคุมคุณภาพจากคาตาเนีย (Catania) เกาะซิซิลี ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางกลับอิตาลีในเร็ววันนี้ มาเรีย ริโวลี (Maria Rivoli) วัย 34 ปี นักธุรกิจด้านสิ่งทอ เดินทางมายังบังกลาเทศ เพื่อดูสินค้าสิ่งทอเป็นหลัก มีภูมิลำเนาในเบอร์ฏาโม (Bergamo) ทางตอนเหนือของอิตาลี คริสเตียน รอสซี (Cristian Rossi) วัย 47 ปี ผู้จัดการบริษัท เฟเลตโต อุมแบร์โต (Feletto Umberto) คุณพ่อลูก 3 คน มาร์โก ทอนดาต (Marco Tondat) วัย 39 ปี อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ มาได้ 1 ปีแล้ว ทำงานให้กับบริษัทสิ่งทอ และมีกำหนดจะกลับอิตาลีในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีนักศึกษาต่างชาติจากมหาวิทยาลัยเอโมรี รัฐจอร์เจีย จำนวน 2 ราย รวมอยู่ในส่วนผู้เสียชีวิต โดยทางมหาวิทยาลัยได้ยืนยันการสูญเสีย คือ อาบินตา กาบีร์ ซึ่งเป็นนักศึกษาในระดับปริญญาตรี จากเมืองไมอามี และ ฟาราซ ฮอสเซน นักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาด้านธุรกิจ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ และในขณะเดียวกัน ในส่วนของสหรัฐฯ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันในวันเสาร์ (2 ก.ค.) มีพลเมืองอเมริกัน 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ เดลิเมล ชี้ว่า พลเมืองที่เสียชีวิต คือ การ์บีเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอโมรี
เดลิเมลรายงานต่อว่า เหยื่อตัวประกันทั้งหมดถูกสังหาร เนื่องมาจากไม่สามารถจดจำคัมภีร์อัลกุรอานได้ และได้ไว้ชีวิตตัวประกันที่สามารถท่องออกมาได้ ซึ่งพบว่ากลุ่มก่อการร้ายใช้มีดยาวฆ่าหั่นคอตัวประกัน จนถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ เอพีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศ จำนวน 2 คน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากได้ดวลปืนกับกลุ่มก่อการร้าย และยังคงมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้อีก 3 คน ที่ทางธากายังไม่ได้ยืนยันด้านเอกลักษณ์บุคคล