บก.สื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน “แขวนคอตาย” คาดปมความเครียดทางการเมือง

เอเอฟพี - รองบรรณาธิการของวารสารชั้นนำเชิงทฤษฎีของพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนแขวนคอตายในลานจอดของบริษัท โดยคาดกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางการเมือง เสรีภาพทางความคิด และการคอร์รัปชัน สื่อจีนรายงาน

สำนักข่าวไฉซินของจีนรายงานโดยอ้างจากเพื่อนของเขาที่ไม่ระบุนามว่า จู ทิจี้ นักเขียนบทความเกี่ยวกับหลักการของพรรคและบรรณาธิการบริหารของวารสาร ฉิวซื่อ (Qiushi) มีความรู้สึกหดหู่กับการโต้เถียงทางอุดมการณ์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ระหว่างกลุ่มนักปฏิรูปกับกลุ่มนักวิชาการสายอนุรักษนิยมฝีปากกล้า

หากพรรครัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริง “การโต้เถียงทางอุดมการณ์นี้จะกลายเป็นการพูดคุยที่ไร้ความหมายที่จะบ่อนทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างพรรค รัฐบาล และประชาชน” บทความหนึ่งของจูระบุไว้

ภายใต้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทางการเข้มงวดมากขึ้นกับการโต้เถียงทั้งภายในพรรคและในสังคมวงกว้าง

จูเชื่อว่านักวิชาการต้องคงไว้ซึ่งความซื่อตรง แนวความคิดที่เป็นอิสระ และมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ รายงานระบุโดยอ้างจากเพื่อนของเขา

แต่ “ความกังวลดังกล่าวสวนทางกับการเรียกร้องของพรรคที่ให้สมาชิกและแกนนำทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แนวทางของพรรค” สำนักข่าวไฉซินระบุ

เว็บไซต์ People.cn ของหนังสือพิมพ์รายวันพีเพิลเดลี กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์ รายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของจูเพียงสั้นๆ เมื่อวันอาทิตย์ (26) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการตาย

สื่อจีนสำนักอื่นๆ รายงานข่าวนี้อย่างกว้างขวาง แต่ส่วนใหญ่จะรายงานในวันนี้ (28) รายงานของสื่อจีนในต่างประเทศคาดการณ์ว่า การฆ่าตัวตายของจูสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความสัมพันธ์ของเขากับ หลิน จือหัว ผู้เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับอดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา

หลินถูกตั้งข้อหารับสินบนและได้รับความลับของรัฐมาอย่างผิดกฎหมาย

วารสารฉิวซื่อตีพิมพ์บทความ 4,000 คำของหลินเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2014 ราว 2 สัปดาห์ก่อนหน้าที่เขาจะเสียตำแหน่ง บทความดังกล่าวเอ่ยถึงสีอย่างน้อย 16 ครั้งในความพยายามเฮือกสุดท้ายที่จะแสดงความภักดีและขอความเมตตา รายงานระบุ

หลินอาจกดดันให้จูเร่งการตีพิมพ์บทความดังกล่าวในวารสารฉบับนี้ซึ่งปกติแล้วจะมีความระมัดระวังอย่างมาก สื่อระบุ

เมื่อเดือนตุลาคม คณะกรรมการตรวจสอบวินัยส่วนกลาง (CCDI) หน่วยงานปราบปรามคอร์รัปชันของพรรคได้ตำหนิวารสารฉิวซื่อว่า “หย่อนยานในการเซ็นเซอร์บทความบางบทความ” และดำเนินกระบวนการแก้ไขอย่างไม่เหมาะสมเพื่อตีพิมพ์งานเขียนของพวกพ้อง