รอยเตอร์/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทร่วงหนักอีกครั้งในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) หลังอังกฤษช็อกตลาดด้วยการโหวตออกจากอียู ปัจจัยนี้ฉุดน้ำมันดิ่งอีกกว่า 1 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนหันหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันทองคำขยับขึ้นใกล้ๆ ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ดาวโจนส์ลดลง 260.51 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,140.24 จุด เอสแอนด์พีลดลง 36.87 จุด (1.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,000.54 จุด แนสแดคลดลง 113.54 จุด (2.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,594.44 จุด
“แรงเหวี่ยงของตลาดยังมุ่งสู่แดนลบ เพราะว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก” เอริค คูบี หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของนอร์ทสตาร์อินเวสต์เมนต์ในชิคาโกระบุ ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) มีขึ้นหลังจากแรงเทขายเมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ได้กัดเซาะเม็ดเงินหายไปจากตลาดทุนต่างๆ ทั่วโลก 2.08 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นการร่วงหนักในวันเดียวรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ส่วนราคาน้ำมันในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ก็ปิดลบเช่นกัน หลังความกังวลเกี่ยวกับชาวอังกฤษโหวตพ้นสมาชิกภาพอียูยังก่อความปั่นป่วนต่อตลาดการเงินและพลังงาน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์บอกว่าผลประชามติอังกฤษแยกตัวจากอียูเมื่อวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) อาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุโรป ขณะเดียวกันผลของมันก็ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหากเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่ซื้อขายในรูปแบบดอลลาร์ลดน้อยลงไป
ทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี ฟิวเจอร์ส คาดหมายว่าราคาน้ำมันมีสิทธิ์อ่อนตัวลงมากกว่านี้ อาจลงไปแตะราวๆ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากกำลังผลิตของไนจีเรียที่เคยติดขัดบางส่วนกำลังหวนคืนสู่ตลาดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่าราคาน้ำมันอาจจะเสถียรขึ้นหลังจาก Brexit เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่แท้จริงสืบเนื่องจากอังกฤษออกจากยูโรคงไม่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด
ด้านราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการตัดสินใจออกจากอียูของอังกฤษผลักให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,324.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2014
