“ทรัมป์” เด้ง ผจก.แคมเปญ ลือลูกไม่ปลื้ม “หนุ่มอังกฤษ” สารภาพเล็งฆ่าเจ้าพ่ออสังหาฯ

เอเจนซีส์ - โดนัลด์ ทรัมป์ เปลี่ยนตัวผู้จัดการแคมเปญกะทันหันในวันจันทร์ (20 มิ.ย.) ลือสนั่นลูกๆ ไม่ชอบ ขณะที่เจ้าตัวบอกต้องการปรับทัพก่อนลงสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เต็มตัว ด้านกูรูการเมืองชี้การหาเสียงของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ล้าหลังทีมฮิลลารี คลินตัน หลายปีแสง ขณะเดียวกัน หนุ่มอังกฤษที่พยายามแย่งปืนตำรวจช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายอมรับแล้วว่าต้องการสังหารทรัมป์ เผยวางแผนมาราวหนึ่งปี และถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จจะตามไปลงมือใหม่ในการประชุมใหญ่รีพับลิกันที่เมืองฟีนิกซ์

หลังมีข่าวลือมาหลายสัปดาห์ว่าขัดแย้งกับทีมหาเสียงเรื่องวิธีเอาชนะคลินตัน ในที่สุดเมื่อวันจันทร์ (20) ทรัมป์ ว่าที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ก็ประกาศปลด คอรีย์ ลีแวนโดว์สกี ออกจากตำแหน่งผู้จัดการแคมเปญหาเสียง โดยบอกเพียงว่าลีแวนโดว์สกีมีผลงานดีเยี่ยม แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแคมเปญหาเสียง

ลีแวนโดว์สกีได้รับการยกย่องว่าทำให้ทรัมป์กวาดชัยในการหยั่งเสียงขั้นต้นช่วงแรกๆ แต่ระยะหลังกลับถูกลดบทบาท ขณะที่พอล มานาฟอร์ต นักยุทธศาสตร์การเมืองที่มีประสบการณ์มากกว่าและจะขึ้นมาเป็นผู้จัดการแคมเปญคนใหม่ของทรัมป์ เข้ามามีอิทธิพลในแคมเปญหาเสียงมากขึ้น

ตัวลีแวนโดว์สกียังเป็นข่าวเมื่อต้นปี จากการถูกผู้สื่อข่าวหญิงกล่าวหาว่ากระชากลากถูเธอจนฟกช้ำ แม้เจ้าตัวปฏิเสธและอัยการรัฐฟลอริดายกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดก็ตาม

นิตยสารนิวยอร์กรายงานว่า สาเหตุการปลดลีแวนโดว์สกีเป็นเพราะลูกๆ ของทรัมป์ คือ โดนัลด์ จูเนียร์ อิริก และอิแวนกา เห็นว่าเขาไม่เหมาะสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี

ทว่า ลีแวนโดว์สกียืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งใดๆ กับครอบครัวทรัมป์ และเขายินดีที่มีโอกาสทำหน้าที่ดังกล่าว รวมทั้งพร้อมให้คำปรึกษาหากทรัมป์และทีมหาเสียงต้องการ

ลาร์รี ซาบาโต ผู้อำนวยการเซ็นเตอร์ ฟอร์ โพลิติกส์ของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย วิจารณ์ว่า แคมเปญหาเสียงของทรัมป์มีปัญหาอย่างหนัก เพราะนอกจากจะมีเงินทุนสนับสนุนไม่เพียงพอแล้ว ยังมีการจัดการไม่ดี

ซาบาโตสำทับว่า แคมเปญหาเสียงของคลินตันก้าวล้ำนำแคมเปญของทรัมป์หลายปีแสง

สัปดาห์ที่แล้ว คลินตัน ว่าที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีเงินทุนสนับสนุนพร้อมพรั่งกว่า ได้เริ่มปูพรมโฆษณาโจมตีทรัมป์ใน 8 รัฐสำคัญ ได้แก่ โคโลราโด ฟลอริดา ไอโอวา เนวาดา นิวแฮมป์เชียร์ นอร์ทแคโรไลนา โอไฮโอ และเวอร์จิเนีย โดยโฆษณาชุดนี้จะเผยแพร่จนถึงงานประชุมใหญ่เดโมแครตในวันที่ 25-28 เดือนหน้าที่ฟิลาเดลเฟีย

นอกจากนั้น อาสาสมัครช่วยหาเสียงของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศที่กำลังขับเคี่ยวเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา ยังเตรียมตระเวนขอคะแนนถึงประตูบ้านผู้มีสิทธิออกเสียงตั้งแต่สุดสัปดาห์หน้า

การดำเนินการเช่นนี้ต้องใช้เวลาเตรียมการนาน ทว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์กลับวางแผนโอนงานนี้ให้พรรครีพับลิกัน ซึ่งปกติแล้วไม่ได้รับผิดชอบงานในลักษณะนี้

ที่สำคัญคะแนนนิยมของทรัมป์ที่จี้ติดคลินตันหลังจากที่เขาได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนครบตามเกณฑ์ในการเป็นตัวแทนพรรคเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมกลับแผ่วลง โดยขณะนี้คลินตันนำอยู่เกือบ 6% ทั้งนี้ จากการคำนวณของเว็บไซต์เรียล เคลียร์ โพลิติกส์

คลินตันที่มีจุดแข็งที่ประสบการณ์เชี่ยวกรากด้านนโยบายต่างประเทศ ยังวนเวียนโจมตีจุดอ่อนของทรัมป์ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้นำประเทศ

ด้านทรัมป์ได้แต่พร่ำสัญญาว่าจะสงบปากสงบคำโดยที่ไม่เคยทำสำเร็จ ซ้ำทำให้ชาวพรรครีพับลิกันวิตกอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังจากโจมตีผู้พิพากษาในคดีที่มหาวิทยาลัยทรัมป์ที่ปิดกิจการไปแล้วถูกฟ้องว่าหลอกลวงผู้บริโภค โดยทรัมป์กล่าวหาว่าผู้พิพากษามีอคติเพราะเป็นคนเม็กซิกัน

ความก้าวร้าวสามหาวดังกล่าวยังฟื้นความหวังอันริบหรี่ของชาวรีพับลิกันที่ต่อต้านทรัมป์ว่าอาจมีการเสนอชื่อแคนดิเดตคนอื่นในการประชุมใหญ่พรรค ซ้ำร้ายสปอนเซอร์รายใหญ่ในภาคธุรกิจอย่างแอปเปิลและเจพี มอร์แกน ยังขอถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์การประชุมใหญ่คราวนี้

นอกจากนั้น การที่ทรัมป์ตัดสินใจเดินทางไปสกอตแลนด์ในสัปดาห์นี้เพื่อเปิดตัวสนามกอล์ฟใหม่แทนที่จะทุ่มเทหาเสียง ยังกระตุ้นความกังวลที่ว่าเขาไร้ความสามารถในการมุ่งมั่นกับศึกชิงทำเนียบขาว

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย แต่กลับให้สัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เรายังไม่ได้เริ่มต้นจริงๆ แต่จะลงมือหลังการประชุมใหญ่พรรค”

เมื่อวันจันทร์ (20) ยังมีการเผยแพร่เอกสารสำคัญจากศาลในเนวาดาที่ระบุว่า ไมเคิล สตีเวน แซนด์ฟอร์ด หนุ่มอังกฤษวัย 20 ปี ที่เดินทางไปอเมริกาตั้งแต่เมื่อปีครึ่งที่ผ่านมา สารภาพว่า ที่พยายามแย่งปืนจากตำรวจเพราะต้องการสังหารทรัมป์ระหว่างหาเสียงที่ลาสเวกัสในวันเสาร์ (18)

แซนด์ฟอร์ดยังบอกว่า วางแผนมาราวหนึ่งปีและไม่เคยยิงปืนมาก่อน แต่เพิ่งเรียนรู้วิธีการใช้ปืนเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา และเสริมว่า ถ้าไม่ได้ลงมือในครั้งนี้เขาจะพยายามอีกครั้งระหว่างที่ทรัมป์ไปหาเสียงที่ฟีนิกซ์

ด้านทนายจำเลยที่เป็นทนายของรัฐระบุว่า ลูกความเป็นออทิสติกและพยายามฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ แซนฟอร์ดถูกตั้งข้อหากระทำการรุนแรงในพื้นที่หวงห้าม และถูกส่งตัวไปคุมขังจนกว่าจะถึงนัดไต่สวนในวันที่ 5 เดือนหน้า