xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มติดอาวุธสุดโต่ง โบโก ฮารัม บุกโจมตีหมู่บ้านไนจีเรียดับอย่างน้อย 18 ศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากรอยเตอร์
เอเจนซีส์ / MGR online – กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ก่อเหตุบุกกราดยิงและโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐอดามาวา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงอย่างน้อย 18 ราย

รายงานข่าวซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุว่า เหตุโจมตีในครั้งนี้ของกลุ่มโบโก ฮารัม เกิดขึ้นที่หมู่บ้านคูดา ไม่ไกลจากที่มั่นของกลุ่มสุดโต่งนี้ ที่บริเวณป่าซัมบิซา

นอกเหนือจากยอดผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนอย่างน้อย 18 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้หญิงแล้ว รายงานข่าวยังยืนยันด้วยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10 รายจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว

พยานผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่า ชาวบ้านที่รอดชีวิตส่วนใหญ่ได้หลบซ่อนตัวอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะกลับเข้าสำรวจความเสียหายในหมู่บ้านของตน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดการโจมตีของกลุ่มโบโก ฮารัม ในพื้นที่จังหวัดอดามาวาในครั้งนี้ มีขึ้นไม่นานหลังจากที่รัฐบาลไนจีเรีย เห็นชอบรับตัวผู้อพยพที่หนีภัยคุกคามของกลุ่มติดอาวุธ “โบโก ฮารัม” เข้าไปลี้ภัยอยู่ในแคเมอรูนราว 80,000 ราย กลับประเทศ


ซานิ ดัตติ โฆษกสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของไนจีเรีย ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. โดยระบุ รัฐบาลไนจีเรียได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลแคเมอรูน และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ในการนำตัวผู้อพยพชาวไนจีเรียในแคเมอรูน ที่มีจำนวนราว 80,000 รายกลับประเทศ หลังจากที่คนกลุ่มนี้ต้องหนีตายออกจากบ้านเรือนของตน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจากภัยคุกคามที่ก่อโดยกลุ่มโบโก ฮารัม


อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงอาบูจาของไนจีเรีย เผยว่า ข้อตกลงในการนำผู้อพยพชาวไนจีเรียเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดของตนนั้น จะยึดหลักความสมัครใจเป็นสำคัญ แม้ทางการแคเมอรูนจะออกมายอมรับว่าตนเองแบกรับภาระในการจัดหาที่พัก อาหาร น้ำดื่ม แก่บรรดาผู้ลี้ภัยชาวไนจีเรียกลุ่มนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว


ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทางการชาดประกาศส่งกำลังทหาร จำนวนราว 2,000 นาย เข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างไนเจอร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ภายหลังจากที่กลุ่มสุดโต่งที่มีฐานอยู่ในไนจีเรียกลุ่มนี้ได้ข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีเมืองบอสโซของไนเจอร์ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน


ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชาดเมื่อ 8 มิ.ย. มีขึ้นภายหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม ได้เริ่มบุกข้ามแดนมาโจมตีเมืองบอสโซของไนเจอร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. โดยรายงานข่าวซึ่งอ้าง มามาดู บาโก นายกเทศมนตรีของเมืองบอสโซ รวมถึงแหล่งข่าวทางทหาร ยืนยันว่า เมืองแห่งนี้ของไนเจอร์ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มโบโก ฮารัมโดยสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ 6 มิ.ย. เป็นต้นมา


ก่อนหน้านี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เผย ประชาชนราว 50,000 ชีวิต ต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตนในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของ ไนเจอร์ หลังเกิดการข้ามเขตแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ โบโก ฮารัม จากไนจีเรีย


เอเดรียน เอ็ดเวิร์ดส์ โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ เผยต่อผู้สื่อข่าวที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุการอพยพหนีตายของประชาชนจำนวนครึ่งแสนดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองบอสโซ ในเขตดิฟฟาของไนเจอร์ ซึ่งมีอาณาเขตติดกับชายแดนไนจีเรีย


โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ ระบุว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เลือกที่จะอพยพไปยังหมู่บ้านตูมัวร์ที่อยู่ห่างจากเมืองบอส โซไปทางตะวันตกราว 30 กิโลเมตร ขณะที่แหล่งข่าวในองค์การสหประชาชาติ เผยว่า ส่วนใหญ่เป็นการอพยพแบบ “ไปตายเอาดาบหน้า” ซึ่งส่งผลให้ผู้อพยพจำนวนมากต้องกินอยู่หลับนอนในพื้นที่โล่งแจ้ง และมีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านที่พัก ตลอดจนความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมอื่น ๆ อย่างเร่งด่วน


กลุ่มโบโก ฮารัม ได้เข้าไปก่อเหตุรุนแรงในเมืองบอสโซครั้งแรกเมื่อ 3 มิ.ย. เป็นเหตุให้ทหารของไนเจอร์ 30 นาย และทหารไนจีเรียอีก 2 นายเสียชีวิต ขณะที่นักรบของ โบโก ฮารัม ถูกสังหารไป 55 ราย ระหว่างการปะทะกันอย่างหนักหน่วงท่ามกลางรายงานที่ระบุว่าสมาชิกกลุ่มสุดโต่งจากไนจีเรียกลุ่มนี้ได้กระจายกำลังกันออกไปเผาค่ายทหาร สถานีตำรวจ และทำการปล้นร้านค้าต่าง ๆ ทั่วเมืองบอสโซเพื่อสร้างความหวาดกลัว


ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมของไนเจอร์ แถลงยืนยันว่า สมาชิกกลุ่มโบโก ฮารัม จำนวนหลายร้อยชีวิตได้บุกเข้าโจมตีที่ตั้งทางทหาร ตลอดจนหมู่บ้านที่เมืองบอสโซของไนเจอร์ เป็นเหตุให้มีทหารทั้งของไนเจอร์และไนจีเรีย เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 32 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 67 ราย


ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์โบโก ฮารัม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายแต่ดั้งเดิมในการสถาปนารัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย ได้เริ่มข้ามพรมแดนเข้าไปก่อเหตุโจมตีในไนเจอร์ รวมถึงชาติเพื่อนบ้านอื่น ๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 เป็นต้นมา โดยที่ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ เปิดเผยว่า เหตุรุนแรงและปัญหาความไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโบโก ฮารัม ตลอดระยะเวลา 7 ปี หรือตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมาได้ผลักดันให้เกิดคลื่นผู้อพยพที่มีจำนวนราว 2.1 ล้านคนในไนจีเรีย และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 20,000 รายเฉพาะในไนจีเรีย ยังไม่นับรวมกับผู้เสียชีวิตในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ เช่น แคเมอรูน ชาด และ ไนเจอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น