เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - กระทรวงกลาโหมของไนเจอร์ แถลงในวันเสาร์ (4 มิ.ย.) ยืนยันว่า กำลังพลของกองทัพไนเจอร์ เสียชีวิต 32 นาย จากการปะทะกับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สุดโต่ง “โบโกฮารัม” ที่มีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไนจีเรีย ถือเป็นหนึ่งในเหตุปะทะกับพวกนักรบสุดโต่งครั้งเลวร้าย และนองเลือดที่สุดของไนเจอร์
คำแถลงของทางกระทรวงกลาโหมไนเจอร์ ระบุว่า สมาชิกกลุ่มโบโกฮารัมจำนวนหลายร้อยราย ได้บุกเข้าโจมตีที่ตั้งทางทหารและหมู่บ้านที่เมืองบอสโซของไนเจอร์ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันศุกร์ (3) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 67 ราย แต่ย้ำชัดเจนว่า สถานการณ์ในพื้นที่ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
ขณะที่ฝ่ายคนร้าย คือ กลุ่มโบโกฮารัมนั้น มีรายงานว่า สมาชิกถูกสังหารไปหลายราย แต่ทางการไนเจอร์ไม่สามารถยืนยันตัวเลขความสูญเสียของฝ่ายกลุ่มสุดโต่งจากไนจีเรียได้แน่ชัด
ด้าน เอลฮัจ อบูบาการ์ อดีตสมาชิกรัฐสภาของไนเจอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองบอสโซ แห่งนี้ออกมาเปิดเผยว่า สมาชิกกลุ่มโบโกฮารัมได้เดินทางมาถึงในพื้นที่ เมื่อช่วงค่ำของวันศุกร์ (3) ก่อนที่จะเปล่งวาจาสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า และลงมือกราดยิง รวมถึงจุดไฟเผาสถานที่ต่าง ๆ อย่างสะดวกโยธิน จนทำให้ชาวบ้านจำนวนมากตั้งคำถามถึงความบกพร่องของกองทัพไนเจอร์ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์โบโกฮารัม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายแต่เดิมในการสถาปนารัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย ได้เริ่มข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีในไนเจอร์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 เป็นต้นมา
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เปิดเผยว่า เหตุรุนแรงและปัญหาความไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโบโกฮารัมตลอดระยะเวลา 7 ปี หรือตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ได้ผลักดันให้เกิดคลื่นผู้อพยพที่มีจำนวนราว 2.1 ล้านคนในไนจีเรีย และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 20,000 ราย เฉพาะในไนจีเรีย ยังไม่นับรวมกับผู้เสียชีวิตในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ เช่น แคเมอรูน และ ไนเจอร์