เอเอฟพี - วาฬนำร่องหลายสิบตัวเกยตื้นบนชายฝั่งเกาะชวาของอินโดนีเซีย ตายแล้ว 8 ตัว ก่อให้เกิดปฏิบัติการช่วยเหลือขนานใหญ่ เจ้าหน้าที่ระบุในวันนี้ (16)
วาฬนำร่องครีบสั้น 32 ตัวขึ้นมายังชายฝั่งในช่วงน้ำขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (15) ในเมืองโปรโบลิงโก จังหวัดชวาตะวันออก
“ในตอนแรกมีวาฬว่ายเข้าใกล้ชายฝั่งเพียง 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น และธรรมชาติของวาฬคือหากพวกมันเจ็บป่วยมันจะเข้าใกล้ชายฝั่ง” เดดี อิสฟานดี ผู้อำนวยการสำนักงานการเดินเรือการประมงท้องถิ่นระบุ
“แต่วาฬเป็นสัตว์ที่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง เมื่อตัวหนึ่งป่วย พวกมันจะเข้าใกล้ตัวที่ป่วยเพื่อว่ายกลับสู่ทะเล เมื่อน้ำลดพวกมันทั้งหมดจึงเกยตื้น” อิสฟานดีกล่าวเสริม
ชาวประมงและเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นหลายร้อยคนพยายามพาพวกมันกลับสู่ทะเลตลอดทั้งคืน แต่ในตอนเช้าวาฬ 8 ตัวได้กลับขึ้นมาบนฝั่งและตาย อิสฟานดีกล่าว
วาฬอีกราว 23 ตัวออกสู่ทะเลแล้ว ในขณะที่วาฬที่สับสนตัวหนึ่งถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่กลับมาบนฝั่งอีก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้ผ้าใบเพื่อห่อตัวสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เกยตื้นเหล่านี้และลากพวกมันออกสู่ทะเล ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกกลุ่มหนึ่งว่ายน้ำลงไปผลักดันวาฬตัวอื่นๆ ออกจากพื้นที่นี้
สัตวแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทำการชันสูตรซากวาฬที่ตายเพื่อตรวจสอบว่าทำไมพวกมันถึงเกยตื้น แต่เจ้าหน้าที่ประมงกล่าวว่า มันอาจเป็นเพราะความรุนแรงของกระแสน้ำในมหาสมุทรอินเดียหรือพวกมันกินสารพิษบางอย่างเข้าไป
ในช่วงเวลาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาฉลามวาฬและปลาวาฬเพชฌฆาตก็ถูกพบเกยตื้นในพื้นที่นี้เช่นกัน อิสฟานดีกล่าว
สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) ระบุว่า มีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะจัดวาฬนำร่องครีบสั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ พวกมันถูกพบในน่านน้ำอุ่นถึงน่านน้ำเขตร้อน