รอยเตอร์ - ไอเอสอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดฆ่าตัวตายและคาร์บอมบ์ชานเมืองดามัสกัสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11) ใกล้มัสยิดนิกายชีอะต์ของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย ด้านวอชิงตันประณามว่าเหตุการณ์นี้ตอกย้ำความโหดร้ายป่าเถื่อนของไอเอส
สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียแพร่ภาพซากรถและร้านค้าที่เสียหายยับเยินในย่านธุรกิจใกล้มัสยิดไซเยดา ซัยนับ ในบริเวณที่มีการโจมตีด้วยระเบิดอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบ
ไอเอส กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรง ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้นับถือนิกายชีอะห์โดยอ้างว่าเป็นมุสลิมนอกรีต โดยสื่อของทางการซีเรียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีล่าสุด 8 คน ทว่ากลุ่มติดตามสถานการณ์ในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส” ระบุยอดผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 20 ราย ซึ่งรวมถึงพลเรือนอย่างน้อย 13 ราย และผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งเป็นทหารบ้านที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ทั้งยังคาดว่าตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บาดเจ็บหลายรายมีอาการสาหัส
สำนักข่าวอามัคที่มีสัมพันธ์โยงใยกับไอเอสรายงานโดยอ้างอิงการเปิดเผยของไอเอสว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายสองคนของไอเอสระเบิดตัวเอง และผู้ปฏิบัติการอีกส่วนจุดชนวนระเบิดที่ซ่อนอยู่ในรถ
ที่วอชิงตัน จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า การก่อการร้ายครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความโหดร้ายป่าเถื่อนของไอเอส
มัสยิดไซเยดาเป็นสถานที่ที่ทหารบ้านชีอะห์ชาวอิรักและอัฟกันนับพันคนไปรายงานตัวก่อนถูกส่งไปแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับกลุ่มกบฏสุหนี่ที่พยายามโค่นล้มประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด โดยทหารบ้านชีอะห์เกือบทั้งหมดเหล่านี้สวมเครื่องแบบที่ติดคำว่า “แด่ไซเยดา ซัยนับ”
นอกจากนั้น บริเวณใกล้กับมัสยิดแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ซึ่งรู้กันว่าเป็นที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนที่มีอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอัสซาดหนุนหลังอยู่
กลุ่มกบฏที่ไม่ใช่พวกญิฮัดระบุว่า การแทรกแซงทางทหารของอิหร่าน ควบคู่กับการให้การสนับสนุนทหารบ้านชีอะห์กลุ่มอื่นๆ กระตุ้นความแตกแยกด้านลัทธิในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ดำเนินมาเกือบ 6 ปี ด้วยการดึงดูดพวกญิฮัดหัวรุนแรงนิกายสุหนี่จากประเทศอื่นเข้าสู่ซีเรีย
ขณะเดียวกัน กองกำลังกบฏซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาสามารถรุกคืบในการต่อสู้กับไอเอสเมื่อวันเสาร์ โดยเคลื่อนเข้าใกล้ที่มั่นสำคัญอีกแห่งของกลุ่มก่อการร้ายนี้ทางเหนือของซีเรีย
กลุ่มออบเซิร์ฟเวอร์รายงานว่า กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) ที่ผนึกกำลังกับนักรบเคิร์ดและอาหรับ อยู่ห่างจากเมืองอัล-บับ ที่มั่นสำคัญของไอเอสทางตะวันออกเฉียงเหนือของอเลปโป เพียงไม่ถึง 17 กิโลเมตร
เมื่อวันศุกร์ เอสดีเอฟปิดล้อมถนนสายสุดท้ายที่เข้าสู่เมืองมานบิจ หลังจากรุกคืบล้อมบริเวณดังกล่าวมากว่าสัปดาห์ ทำให้สามารถล้อมเมืองนี้จากทุกด้าน
ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เครื่องบินรบของรัสเซียและซีเรียถล่มที่มั่นของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรียในเมืองอเลปโปชุดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงดึก นักรบกลุ่มกบฏได้ขับไล่กองทัพซีเรียออกจากมาลาห์ไปจนถึงทางหลวงคาเทลโล ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวในการเข้าถึงที่มั่นของกลุ่มกบฏ
ทั้งนี้ กองทัพซีเรียใช้เวลานาน 4 เดือนกว่าจะสามารถบุกไปถึงทางหลวงดังกล่าวเพื่อปิดล้อมที่มั่นของกลุ่มกบฏที่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 400,000 คน
ทางด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า ขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือจากคณะกรรมการกาชาดได้เข้าถึงเมืองฮูลาในจังหวัดฮอมส์ที่เป็นเขตยึดครองของกลุ่มกบฏ และเป็นสถานที่ที่ถูกปิดล้อมแห่งที่สามที่ได้รับสิ่งบรรเทาทุกข์นับจากวันศุกร์ที่ผ่านมา (10) ที่มีการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่สองเมืองที่เป็นเขตยึดครองของกลุ่มกบฏใกล้กรุงดามัสกัส อันถือเป็นการจัดส่งเสบียงอาหารไปยังเมืองดารายาครั้งแรกนับจากปี 2012 หลังจากได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย