เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดิ่งหนักในวันศุกร์(10มิ.ย.) ขยับลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์อีกครั้ง นักลงทุนกังวลกำลังผลิตอาจฟื้นคืน ปัจจัยทางพลังงานและข้อวิตกต่อเศรษฐกิจโลกฉุดวอลล์สตรีทปิดลบแรง ขณะที่ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจาก เบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านพลังงาน เผยในวันศุกร์(10มิ.ย.) ว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันของเหล่าผู้ผลิตต่างๆที่ปฏิบัติการขุดเจาะเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ 328 แท่น เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3 แท่นและนับเป็นการเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน กระพือความกังวลว่ากำลังผลิตอาจฟื้นคืนท่ามกลางราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นต่อเนื่องในระยะหลัง
นอกจากนี้แล้วดอลลาร์ที่แข็งค่าและความรู้สึกด้านลบที่แผ่ลามทั่้วตลาดการเงินก่อนหน้าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ก็ฉุดให้ราคาน้ำมันขยับลงเช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันศุกร์(10มิ.ย.) หลังราคาน้ำมันขยับลงและมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ก่อนหน้าการลงประชามติของสหราชอาณาจักร ตัดสินชะตาว่าจะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่
ดาวโจนส์ ลดลง 119.85 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,865.34 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.41 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,096.07 จุด แนสแดค ลดลง 64.07 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,894.55 จุด
เจฟฟีย์ กุนด์ลัช ประธานบริหารของดับเบิลไลน์ แคปิตอล ระบุในวันศุกร์(10มิ.ย.) ว่านักลงทุนแห่ขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเพราะคาดหมายว่าจีพีดีโลกจะทรุดลง ส่วนหนึ่งจากการเติบโตชะลอตัวของจีนและศึกหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีอันเข้มข้นในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาการลงประชามติ ตัดสินชะตาว่าจะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่ของสหราชอาณาจักร ในวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผลโพลล่าสุดพบว่าพวกที่อยากออกจากอียูมีคะแนนนำหน้าพวกต้องการอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป
ความอ่อนแอของตลาดทุนโลก กระตุ้นให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันศุกร์(10มิ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,275.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์